สำนักข่าวมุสลิมไทย - อำนาจใหม่ในอิรัก ถึงเวลาประยุกต์ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่หนังสือเรียน

แบกแดด – ผู้ปกครองนักเรียนประถมในเมืองตูนิส ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงแบกแดดต่างเป็นกังวลใจ เนื่องจากหนังสือเรียนที่ใช้ในการสอนอิสลามศึกษา ซึ่งจัดพิมพ์โดยบริษัทที่สังกัดรัฐบาล ได้มีการแบ่งแยกระหว่างซุนนี กับชีอะฮฺ ซึ่งจะนำไปสู่การแตกแยกในอนาคต

แม่ของเด็กบางคนรู้สึกช๊อคเมื่อเปิดหนังสือเรียนระดับประถมของลูก แล้วพบว่ามีภาพการนมาซ รวมทั้งการแต่งกายที่แตกต่างกันระหว่างซุนนี กับชีอะฮฺ ซึ่งหลายคนเห็นว่ายังไม่สมควรที่จะสอนในเด็กวัยขนาดนี้ เพราะเท่ากับปลูกฝังความขัดแย้งในจิตใจเด็ก

ขณะนี้ทั้งมุสลิมซุนนี และชีอะฮฺส่วนมากในอิรักอยู่กันอย่างสันติ แต่หลังจากปี 2003 ที่อเมริการบุกรุกเข้ามากำจัดซัดดัม ก็มีการปะทะกันอย่างรุนแรงถึงเสียชีวิต โดยประชาชนทั้ง 2 ความเชื่อเสียชีวิตหลายหมื่นคนจากความรุนแรง และทำให้มีผู้อพยพย้ายถิ่นประมาณ 2.8 ล้าน และตามมาด้วยการย้ายออกนอกประเทศอีก 2 ล้านคนในเวลาต่อมา (ตัวเลขจากสหประชาชาติ)

ตลอด 80 ปี ที่ระบอบซัดดัม ซึ่งเป็นซุนนีปกครองประเทศอิรัก ซึ่งสิ้นสุดด้วยการรุกรานของอเมริกา หนังสือเรียนจะปรากฏแต่ภาพการประกอบศาสนกิจแบบซุนนี แต่ขณะนี้กลุ่มชีอะฮฺกำลังมีอำนาจในรัฐบาล ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในหนังสือเรียนของเด็กดังกล่าว

สิ่งอื่นนอกเหนือจากนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป คือมีการลบภาพของซัดดัม ฮุสเซนออกจากหนังสือเรียน รวมทั้งเรื่องราวของพรรคบาธที่เป็นพรรคการเมืองของซัดดัมด้วย

หลังจากที่ได้มีการร้องเรียนกันอย่างมากมายในเรื่องนี้ มุฮฺซิน อะบิด อะลี ที่ปรึกษากระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาแถลงว่า จะจัดพิมพ์แก้ไขใหม่ในปีหน้า โดยขณะนี้กำลังมีการปรึกษาหารือในเรื่องนี้ และจะนำข้อสรุปจากที่ประชุมมาปรับปรุงต่อไป

ในอิรักมีชีอะฮฺประมาณ 3 ใน 5 ส่วน ในขณะที่ซุนนีมีเพียง 1 ใน 4 ส่วน ที่เหลือเป็นชาวเคิร์ด ซึ่งส่วนมากอยู่ในพื้นที่ปกครองตนเองของเคอร์ดิสถาน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก

ถ้าไม่รวมในเขตเคอร์ดิสถาน ประเทศอิรักมีเด็กนักเรียนทั้งหมดประมาณ 6.5 ล้านคน ซี่งอยู่ในระหว่างอายุ 6 – 17 ปี และมีครู 525,000 คน ซึ่งส่วนมากรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับหนังสือเรียนดังกล่าวนี้ โดยครูใหญ่บางคนกล่าวว่า เมื่อแจ้งไปทางกระทรวงถึงความห่วงใยในเรื่องนี้ ทางกระทรวงตอบกลับมาว่า ไม่ต้องให้ความสนใจในบทนี้นัก โดยให้สอนผ่านๆ เลยไป

ในส่วนของบริษัทที่รับพิมพ์หนังสือเรียนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ออกมาชี้แจงว่า ก่อนพิมพ์หนังสือก็ได้ถามความเห็นของผู้รู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการด้านการศึกษาของรัฐสภา หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านศาสนาของทั้งซุนนี และชีอะฮฺ ซึ่งก็ได้แสดงความเห็นชอบแล้ว

ผู้ปกครองหลายคนกล่าวว่า เด็กในวัยนี้ ควรได้รับการปลูกฝังถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และให้ความเคารพในความแตกต่าง ว่าไม่ใช่เป็นความผิด - muslimthai.com