สำนักข่าวมุสลิมไทย - โรค anti islam ระบาดรุนแรง หญิงอเมริกันดึงฮิญาบสาวมุสลิม หลังจากต่อว่าแล้วอีกฝ่ายทำไม่สนใจ

ดูไบ –หนังสือพิมพ์รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นายทหารมุสลิมยิงเพื่อนทหารที่ฟอร์ด ฮู้ด 2 วัน มีกรณีการกระทำผิดเนื่องจากความเกลียดชังเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยหญิงชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาเพราะใช้คำพูดประณามหญิงมุสลิม และพยายามดึงฮิญาบจากศีรษะ

แวเลอรี่ เคนนี่ ตรงเข้าไปหา อามัล อะบูสุมัยยะฮฺ ซึ่งเกิดในอเมริกา พร้อมตะโกนว่า ทหารที่ทำความผิดในฟอร์ด ฮู้ด ไม่ได้เป็นชาวอเมริกัน แต่เป็นคนที่มาจากตะวันออกกลาง และเมื่ออามัลแสดงความไม่สนใจ เธอกลับถูกดึงฮิญาบ ทำให้อามัลต้องเรียกตำรวจมาจัดการ เคนนี่ถูกแจ้งความผิดและจะมาให้การในศาลวันที่ 3 ธันวาคมนี้ หากศาลพิพากษาว่ามีความผิด เธอจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย 25,000 ดอลล่าร์ และอาจจะต้องติดคุก 3 ปี

Richard Roeper คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ซัน-ไทมส์ เขียนแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ว่า การลงโทษในความผิดฐานแสดงความเกลียดชังนี้ แรงไปหรือไม่ และน่าจะเรียกว่าเป็นความผิดฐานแสดงความโง่เขลามากกว่า ความผิดนี้น่าจะพอทำให้เลิกแล้วกันไป โดยเพียงกล่าวคำขอโทษ ให้อภัย หรือทำงานรับใช้สังคมเพื่อแสดงความสำนึกผิด

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่าน สถาบันวิจัยพิวรายงานว่า ชาวอเมริกันเชื่อว่า มุสลิมในอเมริกาต้องเผชิญกับอคติมากกว่าผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ แต่มีความขัดแย้งจากข้อมูลหนึ่งที่ระบุว่า ถึงแม้มุสลิมจะถูกอคติมากหลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 แต่หลังจากนั้นตัวเลขได้ลดน้อยลง โดยในปี 2007 สถิติจำนวนความผิดที่มีพื้นฐานจากความเกลียดชัง ด้านศาสนา 1,477 ราย มีเพียงร้อยละ 9 ที่กระทำต่อมุสลิม

คริสเทียน่า อับราฮัม ผู้อำนวยการด้านสิทธิพลเมืองของ CAIR สาขาชิคาโก้ มีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่มีมุสลิมเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็มักจะมีเหตุการณ์ลักษณะตอบโต้ด้วยความเกลียดชังตามมา

แต่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ มิเชล โอคอนเนลล์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ความผิดที่เคนนี่ก่อขึ้น เกิดจากความเกลียดชัง และเท่ากับดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้อื่น ซึ่งความผิดเช่นนี้ไม่ว่าจะเกี่ยวกับความมุ่งร้ายในด้านศรัทธาในศาสนา เชื้อชาติ หรืออคติทางเพศ ล้วนแต่ต้องได้รับการพิจารณาลงโทษตามกฎหมายของสหรัฐ ซึ่งไม่ส่งเสริมให้มีการกระทำเช่นนี้กับผู้อื่น - muslimthai.com