สันนิบาตมุสลิมโลกและนานาชาติชื่นชมความสำเร็จการจัดงานสโมสรฮัจย์สัมพันธ์ของไทย สันนิบาตมุสลิมโลกและนานาชาติมุสลิมชื่นชมความสำเร็จการจัดงานสโมสรฮัจย์สัมพันธ์ซึ่งผู้แทนฮัจย์ทางการไทยเป็นเจ้าภาพริเริ่มจัดในช่วงการประกอบพิธีฮัจย์ เป็นครั้งที่ 2 
ที่ห้องประชุมสำนักงานใหญ่ องค์การสันนิบาตมุสลิมโลก นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา 17.00 น ตามเวลาท้องถิ่น ( ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง ) ดร อิสมาอีลลุตฟี จะปากียา ผู้แทนฮัจย์ทางการไทยได้เป็นประธานจัดงานสโมสรฮัจย์สัมพันธ์ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดในช่วงการประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ ซึ่งในงานได้เชิญผู้แทนฮัจย์ทางการจากหลายประเทศพร้อมทั้งทูตานุทูตประเทศมุสลิมในประเทศซาอุดิอารเบียเข้าร่วมงานจำนวน 20 ประเทศ รวมถึงข้าราชการระดับสูงของทางการซาอุดิอารเบีย รวมจำนวนผู้ร่วมงานเกือบ 400 คน โดยผู้แทนฮัจย์ทางการไทยได้กล่าวสุนทรพจน์ในนามของประเทศไทยถึงการที่รัฐบาลและทุกหน่วยงานของรัฐได้ให้การสนับสนุนกิจการฮัจย์และการอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด พร้อมทั้งได้ขอบคุณทางการซาอุดิอารเบียที่ได้ดูแลและอำนวยความสะดวกต่างๆในการประกอบพิธีฮัจย์แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยเป็นอย่างดี เช่นกัน 
จากนั้นได้มีผู้รับผิดชอบสูงสุดในการดูแลมัสยิดอัลหะรอมนครมาดีนะห์และนครมักกะฮ์ขึ้นกล่าวถึงความสำคัญของการประกอบพิธีฮัจย์ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามจากทุกมุมโลกที่มีความแตกต่างในเชื้อชาติ ฐานะ ทุกเพศทุกวัยได้มีโอกาสมาเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันฉันท์พี่น้อง และในงานเดียวกันนี้ผู้แทนฮัจย์ทางการจากประเทศจีน ประเทศมาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ได้ร่วมเสวนาถึงระบบการจัดการฮัจย์ในประเทศของตนเองด้วย การจัดงานครั้งนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติจาก ดร.อับดุลลอฮ บิน มุห ชิน อัลตุรกี (HE Dr. Abdullah bin Abdul Mohsin Al Turki) เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลก มาร่วมงานด้วย 
โดยเลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลกได้กล่าวชื่นชมการริเริ่มของฝ่ายไทยในการจัดงานสโมสรฮัจย์สัมพันธ์ขึ้นในปีนี้หลังจากที่ได้จัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ ปี 2550 ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามจากประเทศต่างๆ ได้มาพบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันเพื่อที่จะเป็นเวทีแห่งการเสริมสร้างความสัมพันธ์และร่วมมือนำความสมานฉันท์มาสู่สังคมโลกในโอกาสต่อไป พร้อมทั้งได้ให้ความเห็นด้วยว่าการจัดงานเช่นนี้ควรจะมีเป็นประจำและสมควรได้เชิญประเทศต่างๆเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอีกในครั้งต่อไป ศูนย์ข่าวฮัจย์ไทย กรมประชาสัมพันธ์ รายงานจากนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอารเบีย |