



ภาพนี้ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์และฟอร์เวิร์ดต่อๆกัน เป็นที่โจษจันว่าเป็นดัจญาล ข้อเท็จจริงคือเด็กคนนี้เกิดมามีความผิดปกติของร่างกายเท่านั้น ในหน้าแผ่นดินนี้มนนุย์ที่มีตาเดียวไม่ได้มีคนเดียว  ชายชาวปากีสถานมีตาข้างเดียว
 ชายชาวอินเดีย มีตาข้างเดียว
มารู้จักดัจญาลกันก่อนมีรูปลักษณ์อย่างไร ดัจญาลเป็นมนุษย์เพศชาย ซึ่งจะปรากฏตัวในวาระสุดท้ายของโลก มันจะอ้างตนเองว่าเป็นพระผู้เป็นเจ้า โดยจะปรากฏตัวครั้งแรก ณ เมืองคุรอาซาน(ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน ) จากนั้นมันจะเดินทางเข้าไปยังทุกหนแห่ง ยกเว้น มัสยิดบัยตุลมักดิส(มัญยิดโดมทอง-ปาเลสไตน์) มัสยิดอัฏฏูร(แหลมซีนาย ประเทศอียิปต์) เมืองมักกะฮฺ และมะดีนะฮฺ มันไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าวได้เพราะมีฑูตสวรรค์คอยพิทักษ์รักษาอยู่ (เมื่อมันไม่สามารถเข้าเมืองมะดีนะฮฺได้) มันจะหยุดอยู่ ณ พื้นที่แห้งแล้งไม่มีต้นไม้(อัส-สะบะเคาะฮฺ) แล้วเมืองมะดีนะฮจะสั่นไหวสามครั้ง เมื่อนั้นบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและพวกกลับกลอก(มุนาฟิก)จะถูกขับกระเด็นออกจากเมืองมะดีนะฮฺทั้งหมด คุณลักษณะของดัจญาล ท่านศาสดาได้ตักเตือนพวกเราไม่ให้หลงเชื่อดัจญาล ดังนั้นท่านจึงอธิบายแก่พวกเราถึงคุณลักษณะของมันเพื่อให้พวกเราได้ระวังตัว ท่านได้ระบุว่ามันเป็นชายวัยฉกรรณ์มีผิวสีแดง มีตาพิการ เป็นหมันไม่ให้กำเนิดลูก บนหน้าผากจะมีอักษรอาหรับเขียนว่ากาฟิรฺ มุสลิมทุกคนเมื่อเห็นแล้วสามารถอ่านออกได้ ดังบันทึก(หะดีษ) ท่านศาสดาได้กล่าวว่า ความว่า แท้จริงดัจญาลผู้ตาบอดนั้นเป็นชาย รูปร่างเตี้ย เดินขาถ่าง ผมหยิก ตาข้างหนึ่งของมันพิการ(บอด)ไม่มีแวว ดวงตาของมันไม่โปนบวมและยื่นออกมา(ผิวบริเวณตาจะเรียบ) ถ้าหากมันมาหลอกลวงพวกท่านเพิ่งรู้เถิดว่าแท้จริงพระผู้เป็นเจ้าของท่านไม่ได้มีตาพิการ ความว่า "คืนหนึ่ง ฉันฝันเห็นตัวฉันอยู่ที่กะบะห์และฉันเห็นคนผิวดำรูปร่างสง่างามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเขามีผมยาวลงมาระหว่างหูทั้งสองข้างและบ่าของเขา เป็นเส้นผมที่สวยงามที่สุดเท่าที่ท่านเคยเห็น เขาหวีผมของเขาและมีน้ำหยดลงมา เขาเอนพิงคนสองคนหรือพิงบนบ่าคนสองคนที่กำลังเวียนรอบกะบะห์ ฉันได้ถามเขาว่า เขาเป็นใคร และได้รับคำตอบว่า อัลมะซีฮ์ อิบนุมัรยัม ดังนั้นเราจึงเดินไปใกล้กับชายผมหยิกและตาบอดเหมือนกับองุ่นที่ลอยน้ำ ฉันได้ถามว่า คนผู้นี้เป็นใคร และได้ถูกบอกว่า มันคืออัลมะซฮ์ อัดดัจญาล" ยังมีรายงานเสริมอีกว่า ดัจญาลจะครองโลกเป็นเวลา 40 วัน เนื่องจากโลกได้ผ่านสงครามมาอย่างหนักจนแทบเสียสมดุล วันแรกจะเท่ากับหนึ่งปี วันที่สองจะเท่ากับหนึ่งเดือน วันที่สามจะเท่ากับหนึ่งสัปดาห์ ส่วนวันที่เหลือจะเป็นปกติ ดังนั้นดัจญาลจะมีอำนาจปกครองเป็นเวลา 14 เดือน และ 14 วัน เชื่อกันว่ามันจะล่อหลอกผู้คนเป็นอันมาก และทำให้เกิดสงครามไปทั่วบริเวญที่มันผ่านจนนำมาซึ่งความวุ่นวายจนกระจายกันไปทั่วโลก มุสลิมเชื่อว่าการปรากฏตัวของดัจญาล เป็นบททดสอบศรัทธาอันยิ่งใหญ่สำหรับผู้ศรัทธา เพราะพระเจ้าจะให้มันมีความสามารถทำอภินิหารให้ผู้คนแปลกใจ มีหลักฐานจากตัวบทว่าดัจญาลนั้นจะล่อหลอกด้วยสวรรค์และนรก(ปลอม) นรกของมันก็คือสวรรค์ที่แท้จริง ส่วนสวรรค์ของเขาก็คือนรกที่แท้จริง มันมีภูเขาขนมปัง มีแม่นํ้า มันสามารถสั่งฟ้าให้หลั่งนํ้าฝน สามารถสั่งพื้นดินให้พืชพันธุ์งอกเงยได้ ทรัพยากรมีค่าในดินก็ทำตามมัน มันสามารถเดินทางบนพื้นแผ่นดินอย่างรวดเร็ว เหมือนกับฝนเมื่อมีลมพายุพัด มันจะอยู่ในพื้นพิภพนี้นาน 40 วัน โดยจะมี 1 วันที่นานเหมือน 1 ปี มี 1 วันที่นานเหมือน 1 เดือน และมี 1 วันที่นานเหมือน 1อาทิตย์ส่วนวันที่เหลือจะเหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไป จากนั้น นบีอีซา(เยซูคริส์ต) จะเป็นผู้ลงมือฆ่ามัน ณ ประตูลุ๊ด ในประเทศปาเลสไตน์ หมายเหตุ มุสลิมหลายๆยุคตีความในส่วนบรรยาเกี่ยวกับพลังของดัจญาล ต่างกันออกไป ในยุคปัจจุบันจะเชื่อกันว่ามันได้เสนอความสบายและแนวคิดที่ตามใจจนเกินขอบเขตและนำมาซึ่งการทำให้คนเสียนิสัย และเสนอกิเลสเป็นสวรรค์ ตอบสนองความอยากของคนของมันอย่างไร้ข้อจำกัด จนมาครอบครองทรัพยากรของโลกที่เป็นของคนอื่นมาปรนเปรอสาวกของมัน ความสามารถในการเดินทางของมันแทนเทคโนโลยี แต่ที่แน่ๆ มันจะเริ่มด้วยการหลอกลวงและสร้างสาวก คำอธิบายจากคุณ Sigree |