นิวยอร์ค - อัตราการละเมิดทางเพศในกองทัพสหรัฐ พุ่งสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับที่เกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนทั่วไป เช่นเดียวกับอัตราการฆ่าตัวตายในกองทัพสหรัฐ ขณะนี้อัตราการล่วงละเมิดทางเพศในระดับต่างๆ พุ่งขึ้นสูงมากกว่ากรณีเดียวกัน ที่เกิดในกลุ่มประชาชนทั่วไป รายงานจากเพนตาก้อนเปิดเผยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า ทหารหญิง 1 ใน 3 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างการประจำการ ปีที่ผ่านมามีการรายงานเหตุต่างๆ เกือบ 3,000 ราย และร้อยละ 63 ของจำนวนนี้เป็นกรณีการข่มขืน หรือล่วงละเมิดทางเพศลักษณะอื่น ภาพยนตร์สารคดีที่มีชื่อว่า Rape in the Ranks: The Enemy Within อำนวยการสร้างโดยนักข่าว และนักสร้างหนังชาวฝรั่งเศส Pascale Bourgaux ซึ่งนำออกฉายรอบปฐมทัศน์ เมื่อวันจันทร์ (26/10) ในงานเทศกาลหนังเสรี ในนิวยอร์ก เปิดเผยถึงกรณีที่ทหารหญิง 3 คน ถูกข่มขืน และล่วงละเมิดทางเพศ โดยทหารด้วยกัน  ทหารหญิง 1 ใน 3 คนถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างการประจำการ
ทิน่า พริสต์ หนึ่งในเหยื่อ ถูกพบเป็นศพในอิรักเมื่อปี 2006 ไม่กี่อาทิตย์หลังจากที่เธอร้องเรียนกรณีถูกข่มขืนโดยทหารชาย ครอบครัวของเธอได้รับการแจ้งว่าเธอฆ่าตัวตาย แต่พวกเขาเชื่อว่าเธอถูกสังหารเพื่อปิดปากมากกว่า และยังคงเรียกร้องหาความจริง ทั้งๆ ที่คดีนี้ถูกปิดไปแล้ว อีก 3 กรณีเป็นเรื่องของซูซาน ซึ่งถูกข่มขืนโดยผู้บังคับบัญชาจนต้องหนีทหาร เพราะไม่ต้องการถูกส่งไปอิรักอีก และในที่สุดก็ต้องถูกตัดสินให้ติดคุกเพราะหนีทหาร ส่วนกรณีเจสซิก้า ซึ่งถูกข่มขืน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในอเมริกา ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเกาหลี หลังจากนั้นเธอลาออกจากกองทัพเพื่อหนีให้พ้นเรื่องดังกล่าว สเตฟานนี่เป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบกับการละเมิดทางเพศในกองทัพ แต่เธอกลัวเกินกว่าจะรายงานเรื่องนี้ และซ้ำร้ายเธอยังสูญเสียสามีซึ่งเป็นทหารเช่นกัน จากเหตุฆ่าตัวตายที่มีอัตราสูงขึ้นในปัจจุบัน ในภาพยนตร์ดังกล่าวสเตฟานนี่เปิดเผยว่า หลังจากวันเกิดเหตุเธอมีอาการเลือดออกมาก เธอจึงได้ไปพบทหารหญิงที่มียศสูงกว่า เพื่อรายงาน และปรึกษาในเรื่องนี้ แต่เธอกลับถูกตอกกลับด้วยคำพูดที่มีความหมายเป็นนัยๆ ว่า เธอแส่หาเรื่องใส่ตัวเอง และเธอควรจะรู้ว่าอาจจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ในกองทัพ ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเธอทั้งหมด |