คมชัดลึก เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนเทพกระษัตรีทั้งขาเข้า-ขาออก ด้านหน้า สภ.ถลาง มีชาวบ้านจากหมู่ 5, 6 และ 7 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กว่า 500 คน รวมตัวปิดถนนเส้น เพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้ จ.ภูเก็ต ที่กำกับดูแลพื้นที่สวนป่าบางขนุน ต.เทพกระษัตรี  ภาพจาก google ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อข่าว
เนื่องจากกระทำเกินกว่าเหตุ ใช้อาวุธปืนจ่อหัว นายสุขุม วารี โต๊ะอิหม่ามบ้านพรุสมภาร จากนั้นได้ควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.ถลาง พร้อมตั้งข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ (สวนป่าบางขนุน) การควบคุมตัวครั้งนี้สืบเนื่องจากนายสุขุมพร้อมพวกช่วยกันแผ้วถางพื้นที่บนเนื้อที่ 30 ไร่ บริเวณสวนป่าบางขนุน ต.เทพกระษัตรี เพื่อทำเป็นกุโบร์ หรือที่ฝังศพของชาวมุสลิม เมื่อช่วงสายวันของเดียวกัน จากเหตุการณ์ชาวบ้านปิดถนนทั้งขาเข้าและออกเมืองภูเก็ตในครั้งนี้ ส่งผลให้จราจรเป็นอัมพาต นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติบางส่วนไม่สามารถไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ตได้ทันเวลา ต่อมานายชัยวัฒน์ เพธี นายอำเภอถลาง พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ พ.ต.อ.ชลิต ถิ่นธานี รอง ผบก.ภ.จง.ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นายบำรุง สำเภารัตน์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ภูเก็ต นายมาโนช พันธุ์ฉลาด นายก อบต.เชิงทะเล ได้เข้าเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน เพื่อขอร้องให้เปิดการจราจร โดยใช้เวลากว่า 1 ชม. กลุ่มชาวบ้านจึงยอมเปิดการจราจรตามปกติ พร้อมเคลื่อนตัวไปยังที่ทำการสวนป่าบางขนุน โดยมีนายอำเภอถลางนำตัวแทนชาวบ้านและคณะกรรมการอิสลามฯ เดินทางเข้าไปดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห่างจากที่ทำการสวนป่าบางขนุนเข้าไปราว 2 กม. จากนั้น นายชัยวัฒน์ พร้อมด้วย นายเรวัต และตัวแทนจากคณะกรรมการอิสลาม ได้เจรจาทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ป่าเป็นที่ฝังศพพี่น้องชาวมุสลิม โดยตัวแทนจากคณะกรรมการอิสลามกล่าวถึงความเป็นมาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุดังกล่าว พื้นที่สวนป่าบางขนุนเนื้อที่ 30 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 180 ไร่ ได้มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ภูเก็ต เมื่อ 2 ปีก่อนว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมอบพื้นที่ดังกล่าวใช้เป็นพื้นที่สร้างกุโบร์ หรือที่ฝังศพของชาวมุสลาม แต่ขณะนั้นยังไม่แบ่งแยกที่ชัดเจนออกจากพื้นที่ 180 ไร่ ซึ่งทุกอย่างเป็นเพียงแค่วาจา ไม่มีลายลักษณ์อักษร แต่ชาวบ้านในพื้นที่และคณะกรรมการอิสลามทราบดีว่า แนวเขตของพื้นที่ 30 ไร่อยู่จุดใด เนื่องจากมีแนวเขตชี้อย่างชัดเจน และทำเสาหลักพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว กระทั่งนายสุขุม โต๊ะอิหม่ามบ้านพรุสมภาร และชาวบ้าน พร้อมคณะกรรมการอิสลามเข้าไปแผ้วถางพื้นที่เพื่อจะใช้ฝังศพชาวมุสลิม แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้ปืนจ่อหัว ก่อนจะควบคุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งถือว่าทำเกินกว่าเหตุ ภายหลังได้รับคำบอกเล่าจากตัวแทนของคณะกรรมการอิสลามดังกล่าว เบื้องต้นนายเรวัตรับปากจะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาแบ่งแยกพื้นที่ 30 ไร่ออกจากพื้นที่ 180 ไร่ เขตสวนป่าบางขนุนให้ชัดเจน โดยมีนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นประธานคณะกรรมการระดับจังหวัดในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งสร้างความพอใจให้แก่กลุ่มชาวบ้าน จึงยอมสลายตัวในที่สุด
|