DUBAI (Courtney C. Radsch) - Spending on advertising during the Muslim holy month of Ramadan, TV’s holy grail of ratings, fell compared to last year according to industry experts, whose initial optimism about the season proved unwarranted.

The industry was hoping for a recovery during Ramadan, which is typically the biggest advertising season in the Middle East, when each day people watch TV two hours more on average and indulge in food, drink and sweets for the festive dinners that break each day’s fast.

ดูไบ – Ghassan Harfouche ผู้อำนวยการบริหารด้านบริการสื่อตะวันออกกลาง ของกลุ่มบริษัท Choueiri ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนขายโฆษณาเจ้าใหญ่ที่สุด ระบุว่า ภาพรวมของยอดการซื้อโฆษณาทางโทรทัศน์ ช่วงเดือนรอมฎอนปีนี้ ลดลงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นราคาค่าโฆษณาจากปีก่อน เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อธุรกิจทุกด้าน ซึ่งเดือนรอมฎอนของทุกปีเคยเป็นช่วงเวลาทองของการโฆษณา เนื่องจากชาวอาหรับนิยมพักผ่อนด้วยการดูโทรทัศน์ในบ้าน

ศูนย์วิจัยแพนอาหรับ (PARC) ได้จัดการสำรวจในช่วงกลางเดือนรอมฎอน พบว่าตัวเลขการซื้อโฆษณามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 15-20 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน แต่ตัวเลขจริงที่ออกมากลับเป็นตรงกันข้าม ทำให้ทราบว่ายังไม่มีหนทางใดๆ ที่สามารถทำนายได้ล่วงหน้า เนื่องจากอุตสาหกรรมโฆษณาในตะวันออกกลางยังไม่มีการพัฒนา ยังไม่มีมาตรฐาน ไม่มีการทำวิจัย หรือการจัดเรทติ้งใดๆ และอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลกมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ และถ้าคำนวณเต่อหัวของจำนวนพลเมืองแล้ว ในประเทศตะวันตกคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์/คน ในขณะที่แถบตะวันออกกลางเป็นเพียงเศษเล็กน้อย

ธุรกิจโฆษณาซบเซาลงในปลายปีที่ผ่านมา และไม่ฟื้นตัวจนผ่านเดือนมกราคม –กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวในตะวันออกกลาง และเคยเป็นช่วงที่พอทำเงินได้ รองลงมาจากเดือนรอมฎอน ที่ผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง แต่ในภาพรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าตัวเลขยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะในสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่เผยแพร่ในภูมิภาค เช่น LBC, Fox Movies และ MBC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอัล อาราบิยา และมีสถานีในเครือ 7 ใน 8 แห่ง ที่ติดอันดับ 10 สถานีที่มีผู้ชมมากที่สุดในภูมิภาค

โดยสถานีโทรทัศน์เหล่านี้ได้โฆษณาในสถานีหลักเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 25 เปอร์เซ็นต์  แต่ก็ยังนับว่าต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังซื้อของประชาชนในประเทศกลุ่มนี้