CALAIS (Agenies) - French riot police on Tuesday rounded up scores of mainly Afghan migrants and refugees during a dawn raid on a makeshift camp known as the "Jungle" used as a base to make risky attempts to reach Britain.

French government official Pierre de Bousquet de Florian said 278 people were detained in the operation. He said nearly half of them had identified themselves as minors and would be taken to a migrant shelter while the adults were taken into custody.

Calais - เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจฝรั่งเศสบุกกวาดจับผู้ลี้ภัย และผู้อพยพซึ่งลักลอบอยู่อย่างผิดกฎหมาย ส่วนมากเป็นชาวอัฟกัน จากค่ายชั่วคราว “จังเกิ้ล” ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุม และเป็นฐานในการวางแผนเสี่ยงข้ามไปเกาะอังกฤษ

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสกล่าวว่า มีผู้ถูกจับกุม 278 คน เกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้เยาว์ ซึ่งต้องส่งไปควบคุมที่ศูนย์อพยพ ในขณะที่ผู้ใหญ่ถูกดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่การกุศลหลายสิบคนจับมือกันทำกำแพงมนุษย์ เพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาได้ ในขณะที่ผู้อพยพประมาณ 100 คนถือป้ายประท้วง แต่ไม่สามารถต้านทานกำลังตำรวจได้ ผู้อพยพถูกนำไปขึ้นรถทั้งน้ำตา โดยมีผู้สื่อข่าวหลายสิบคนคอยสังเกตการณ์ และผู้ประท้วงยังคงตะโกนอยู่

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝรั่งเศสประกาศจะรื้อถอนเพิงและกระโจม ที่ตั้งอยู่บริเวณป่าละเมาะใน Calais นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน ว่าการทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่รัฐมนตรีกิจการผู้อพยพกล่าวว่า ค่ายนี้ไม่ใช่ค่ายเพื่อมนุษยธรรม แต่เป็นค่ายเพื่อการค้ามนุษย์

กว่า 10 ปีที่ผ่านมาผู้ลักลอบเข้าเมืองซึ่งส่วนมากเป็นชายจากอัฟกานิสถาน อิรัก และประเทศที่มีปัญหาสู้รบภายในอื่นๆ พากันมุ่งตรงมายังเมืองนี้ เพื่อเป็นสถานที่พักก่อนหาทางเข้าประเทศอังกฤษโดยทางเรือ หรือทางรถไฟ

“จังเกิ้ล” เป็นสวรรค์ของพวกลักลอบ แต่เป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่ชาวบ้านไม่กล้าผ่าน และยังเป็นสถานที่แพร่เชื้อโรค ซึ่งทางการกล่าวว่า เป็นต้นตอการระบาดของโรคหิดที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้อพยพซึ่งส่วนมากเป็นชาวอัฟกัน เชื้อสายปุชตุนอยู่ที่นี่ถึงประมาณ 700 คน กลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกล่าวว่า 2 ใน 3 ของจำนวนดังกล่าวได้หนีออกไป หลังจากมีข่าวรัฐบาลจะกวาดล้างในเดือนพฤษภาคม

วิลเลี่ยม สปินด์เล่อร์ โฆษกคณะกรรมาธิการด้านผู้อพยพของสหประชาชาติ กล่าวเตือนว่า รัฐบาลฝรั่งเศสมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลผู้อพยพลี้ภัย จากประเทศที่มีการสู้รบกันในโลก และหากทางการปิดจังเกิ้ล อาจทำให้ผู้อพยพเหล่านี้มีโอกาสยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มาจากประเทศโซมาลี อิรัก และอัฟกานิสถาน

ก่อนหน้านี้ในปี 2002 ฝรั่งเศสได้รับการกดดันจากอังกฤษ ให้ปิดศูนย์อพยพของกาชาดสากล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ Sangatte ทำให้ผู้อพยพที่ไม่มีที่ไปต้องมาชุมนุมกันที่จังเกิ้ลมากขึ้น หลายคนยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง ว่าจะถูกส่งตัวกลับไปที่ไหน ส่วนมากบอกว่าฝรั่งเศสเป็นบ้านของพวกเขามาช้านานแล้ว