ผมกลับจากอเมริกาได้ซักระยะครับ เพราะผมมีข้อมลูมากพอที่จะเชื่อได้ว่าจะเกิดการระบาดของ Avian Flu (H5N1) หรือไข้หวัดนกในอเมริกา และจะมีการตายมหาศาลจากเรื่องนี้ และ วัคซีน แต่หลังจากกลับมาได้ 2 เดือน ก็เกิดการระบาดของ Swine Flu (H1N1) ระบาดไปทั่วโลก แต่การเริ่มต้นระบาดในแม็กซิโก ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าต้นตอมาจากแม๊กซิโก แต่ทำไมตัวเลขการระบาดและกระจายตัวในอเมริการุนแรงกว่ามาก ทั้งที่ระบบสาธารณะสุข และความสะอาดของทั้งสองประเทศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่ผมรู้เพราะผมใช้ชีวิตกับคนเหล่านี้มาหมดและนานพอสมควร เค้าทำงานให้ผมครับ ทั้ง American, Spanish, African หรือแม้แต่ Nepal และภรรยาผมได้ RN หรือ Registered Nurse จาก Massachusette Board of Nursing และประสบการณ์ 8 ปีในหลายตำแหน่งจนถึงผู้จัดการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์ยาจากบริษัทยาของอเมริกันในประเทศไทย และท่านหลายคนคงรู้จักเธอถ้าเจอกัน เพราะท่านก็เคยเบียด แทรกและผ่านยาเข้าไปในโรงพยาบาลของท่านจากการนำเสนอของเธอ และเธอก็พาหมอและอาจารย์หมออีกหลายท่านไปเที่ยว ดูงานในหลายประเทศและอีกหลายครั้งในอเมริกา จากงบตอบแทนของบริษัทยาครับ ทีนี้เราคงจะรู้ทาง เข้าใจและคุยภาษาเดียวกันแล้วนะครับ
ครับ ตัวเลขสุดท้ายที่ผม track จากการระบาดครั้งก่อน จาก MSNBC ในแม๊กซิโกอยู่ที่ 15,000-20,000 เคส แต่ในอเมริกา พุ่งขึ้นไปถึง 50,000 กว่า และ 500,00-1,000,000 (Unofficial) ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับ ผมกำลังจะบอกท่านว่าเราไม่ได้สู้กับโรคหวัดครับ แต่มันคืออาวุธชีวภาพ เป็น Genetic Modification การตัดต่อพันธุกรรมที่มาในรูปของไข้หวัดครับ ผมอยากให้ท่านลองเพิ่มประเด็นนี้เข้าไปในแนวทางป้องกัน การรักษา และป้องกันประเทศครับ ถ้าเรามัววิ่งตามและเขวกันไปจะต้องตายกันอีกเยอะครับ แล้วตายเพิ่มอีกมหาศาลจากวัคซีน อย่าให้เข้าเป้าของเค้าครับ ทั้ง WHO (World Health Organization), CDC (Central Diseases Control) และ FDA (Food and Drug Administration) เค้าเล่นกันเป็นทีมครับ
การที่ WHO raised เรื่องนี้ไปเป็น Pandemic Level 6 ก็เพื่อไป trigger "Martial Law" การประกาศใช้กฏอัยการศึก เพื่อจะดึง DHS (Department of Homeland Security), FEMA (Federal Emergency Management Authority) ( YT: FEMA Coffin/Camp), Northcom (Northern Command) และอีกสารพัดให้เข้ามาเล่นด้วย เพื่อทำการอะไรบางอย่าง เรื่องใหญ่มากครับ แต่มันเป็นเรื่องของเค้า เค้าจะทำให้เค้าทำไป แต่เราต้องรู้ทันเค้าครับ "อย่าไปบ้าตามมัน"
Hilary, Geithner และ Obama ไปไล่กู้เงินเค้าไปทั่วเพราะ และคนที่ตกงานอยู่ 1,500,000 คน กำลังจะไม่มีเงินกินข้าวและจ่ายค่าเช่าเพราะ lose unemployed benefit ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า แต่ทำไมรักเราจังและเป็นคนดีถึงขนาดเอามา $70 ล้านให้เราตั้งโรงงานวัคซีน เค้าคิดอะไรครับ หรือต้องการอะไรกันแน่
ผมรบกวนเวลาท่านซักนิดอ่านเรื่องต่อไปนี้ อาจจะเป็นข้อมูลและจิ๊กซอที่สำคัญที่ท่านยังขาดอยู่ เป็นสิ่งที่ผมเขียนไปเตือนน้องชาย ญาติๆ และเพื่อนๆที่อเมริกาครับ การระบาดรอบใหม่และใหญ่คงอีกไม่ช้านี้ และครั้งนี้อาจจะเป็น H5N1 ที่อยู่ใน H1N1 เพราะอย่างที่ท่านรู้อัตราการตายต่างกันหลายสิบเท่าครับ และ Character ของทั้ง 2 ตัวถ้าเอามารวมกันซึ่งทำได้ไม่ยากเพราะเค้าพยายามมาตั้งแต่ปี 1918 ครับ เค้าจะบอกว่ามัน Mutate หรือกลายพันธ์ซึ่งมันอาจจะจริงแต่ไม่ทั้งหมด มันจะเร่งเวลาให้เราไม่มีเวลาพอได้ทดลองวัคซีนครับ ระวังตรงนี้มากๆ ท่านต้องแข่งกับเวลาแล้ว ให้ระวังทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่สุวรรณภูมิ หรือ Border เท่านั้น เพราะเค้าเอาเข้ามาและจะปล่อยมันได้ทุกที่ ทุกเวลาครับ ดูตัวอย่างที่หมู่บ้านชนบทในญี่ปุ่นครับ เท่าที่รู้ ทั้งน้ำและอากาศ แต่ในอเมริกา อยู่ใน Chemtrail ครับ ( YT : Chemtrail ) you tube หาดู Chemtrail
และหน้ากากสารพัดการ์ตูนที่ผมเห็นกันตอนนี้เอาไม่อยู่ครับ ไม่เหลือ ตายครับ อย่างน้อยต้องเป็น N95 ผมซื้อมาและจะโพสต์รูปตัวอย่างให้ดูครับ ให้ความรู้กับประชาชนเรื่องนี้ด้วยครับ ทั้งเรื่องวิตามิน D และ C ที่สำคัญมากเพื่อการป้องกัน โดยเฉพาะ Vit D มีประโยชน์อะไรซ่อนอยู่มหาศาลตัวนี้จะเป็นพระเอก รีบศึกษาเรื่องนี้แล้วให้ความรู้คนครับ ทำมันทุกทางเลยดูซิ จะหาว่าคนไทยโง่อีกไม๊
แล้วผมอาจจะให้ภรรยาไปรบกวนเวลาท่านบ้างเพื่อไปเยี่ยมเยียนเอาขนมที่ท่านชอบไปฝากอีกครับ เค้ายังเก็บ Lists นั้นอยู่เลย ผมทราบครับว่าเรื่องนี้จะกระทบกับเศรษฐกิจขนาดไหน แต่ถ้ามัน Hit แล้วก็พังอยู่ดีแล้วต้องตายกันเยอะอีกต่างหาก ป้องกันดีกว่าแก้ไขครับ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผมก็ทราบครับ ก็ให้การต่างประเทศเค้าปั้นหน้ากันไป อยากเป็นก็ต้องทำเป็นครับ ไม่ใช่อยากเป็น แต่ไม่อยากทำ คนของเราต้องปลอดภัยและสูญเสียน้อยที่สุด ให้เค้ารู้เถอะครับยากดีมีจนเค้าก็คนๆ นึง
"ขอพระเจ้าคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัยครับ" ผมไม่ได้ต้องการให้เรากลัว ไม่มีประโยชน์ที่จะกลัว และผมไม่กลัวที่จะต้องพูดความจริง ถ้าเรารู้จักมันป้องกันได้ครับ ทำให้ดีที่สุดครับ
นี่เป็นสิ่งที่ผมส่งไปให้น้องครับ.............
"Trojan Horse Operation" ปฏิบัติการม้าไม้โทรจัน
Swine Flu ไข้หวัดหมู หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ Swine Flu เคยเกิดการระบาด 2 ครั้งในศตวรรษที่ 20 ครั้งแรกในปี 1918-1919 ในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 5 แสนคน ในอเมริกา และ 20 ล้านคนจากทั่วโลกเสียชีวิต ครั้งที่ 2 ในปี 1976 ในครั้งนี้มีโฆษณาช่วนเชื่่อ การรณรงค์ และระดมฉีดวัคซีน (X53A) ทั่วประเทศ และมีผู้เซ็นยินยอมเพื่อเข้ารับการฉีดทั้งหมด 46 ล้านคน ผลที่ตามมาคือเกิดผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีนตัวนี้อย่างกว้างขวาง ตัวอย่างคือ มีกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการทางระบบประสาทบกพร่อง 4,000 คน และ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เสียชีวิต หรือเป็น อัมพาต ตลอดชีวิต และมีบางคน เสียชีวิต ภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้่เป็นผลของวัคซีนที่เข้าไปกดภูมิคุ้มกันหรือ Immune System และไปทำลายระบบประสาท Neurological System
กล่าวคือวัคซีน เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย จึงเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในระยะยาว ซึ่งเมื่อเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายแล้วร่างกายไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคเหล่านั้นได้เหมือนภาวะปกติ จึงทำให้เกิดเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วหรือ Underlying disease ยิ่งจะทำให้โรคเดิมนั้นมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น จึงมีอัตราการตายสูงขึ้นมาก ในปีนั้นผลของวัคซีนยังทำให้เกิดโรคชนิดใหม่ขึ้นคือ GBS หรือ Guillain-Barre Syndrome ทำให้ผู้ป่วยมีการชาตามประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า แขน ขา ปาก หายใจไม่ออก ทำให้เป็นอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด (ซึ่งภายหลังพบว่า สารปรอท (mercury) ที่ใช้ผสมในวัคซีนทั่วๆ ไปมีผลทำให้ระบบประสาทของร่างกายถูกทำลาย)
จากเหตุการดังกล่าว ทำให้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลของผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนรวมเป็นเงินถึง $3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐกรณี ตัวอย่างของครอบครัวนึงคือ นางจูลี่ โรเบิร์ต เป็นแม่บ้าน เป็นนักกีฬา มีสุขภาพที่สมบูรณ์มาก โดยการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเธอจึงได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ในเดือนพฤษจิกายน 1976 สองสัปดาห์ต่อมา เธอมีอาการชาที่ขาทั้ง 2 ข้าง และอีกหกสัปดาห์ต่อมาเธอมีการหายใจไม่ออก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเจาะท่อช่วยหายใจที่คอ และเธอยังมีอาการชาที่แขนขวา และปาก จะไม่สามารถทีจะพูด ยิ้ม หรือหยิบจับสิ่งของได้ตามปกติ เธอต้องเข้ารับการรักษา และฟื้นฟูตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล 12 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้นการระบาดครั้งนี้จึงไม่ใช่ของใหม่ มันคือ Swine Flu หรือไข้หวัดหมูที่เคยระบาดในอดีต แต่ถูกบิดเบือนเพื่อไม่ให้เรากลับไปดูการระบาด และวิธีการในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมีการระบาดใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือน กันยายน-พฤศจิกายน ของทุกปี ในช่วงเปลี่ยนฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ซึ่งจะมีการระบาดของไข้หวัดเป็นประจำอยู่แล้ว อย่าตื่นตระหนกกับการโฆษณาชวนเชื่อของพวกบริษัทยาที่ทำเพื่อหาผลประโยชน์จากความไม่รู้ของเราเลย พวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คนหลงเชื่อและยอมทำตามทุกอย่างที่พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของมนุษย์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นอกจากความทำให้สิ่งที่พวกเขาต้องการสำเร็จ
เมื่อประมาณเดือนต้นปีนี้ (ประมาณ มค. มีค.)มีข่าวว่า บริษัท Baxter ที่โรงงานผลิตวัคซีนในประเทศออสเตรีย (Austria) ได้ผลิตวัคซีนไข้หวัด (Flu Vaccine) ที่มีส่วนผสมของไวรัสที่มีชีวิต ที่พร้อมที่จะทำให้เกิดอาการถึง 2 ชนิดคือ ไวรัสไข้หวัดในคน (human H3N2) และ ไวรัสไข้หวัดนก (avian H5N1) โดยไม่มีป้ายฉลากเตือนหรือบอกถึงการผสมไวรัสที่มีชีวิต 2 ชนิดนี้ลงไปที่ฉลากข้างกล่อง หรือข้างขวดบรรจุวัคซีนนี้เลย แล้วได้ส่งวัคซีนไปยัง 18 ประเทศทั่วโลก (รายละเอียดจาก link ข้างล่าง) และประมาณเดือน เมย. ก็เริ่มมีข่าวการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ใน18 ประเทศโดยเริ่มแรกที่ประเทศเมกซิโก และในขณะนี้ก็ได้ระบาดไปเกือบทั่วโลกแล้ว
เราคนไทยควรทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน รวมทั้งศึกษาถึงผลข้างเคียงของวัคซีนที่จะผลิตขึ้นนี้ อย่าตกเป็นเหยื่อ ศึกษาประวัติศาสตร์ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว รัฐบาลไทยได้มีการนำเข้าวัคซีนมาแล้วจำนวน 2 ล้านชุด และกำลังตั้งโรงงานผลิตวัคซีนชนิดนี้โดยได้รับเงิน $70 ล้านเหรียญ จากการสนับสนุนขององค์การอนามัยโรค เพื่อผลิตวัคซีนชนิดนี้ให้ได้ 60 ล้านชุุดต่อปี ท่านลองคิดดูว่ามีอะไรอยู่บื้องหลังสิ่งเหล่านี้หรือไม่????
ขอเน้นย้ำให้เราทั้งหลายศึกษาเรื่องราวในอดีต แล้วอย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก อย่าให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของการทำลายมนุษย์ของภูมิภาค เราจะต้องรู้ก่อน หรือรู้เท่าทัน เป็นสิทธิส่วนบุคคุลในการตัดสินใจที่จะเข้ารับวัคซีนหรือไม่ และมีอะไรบ้างที่เราควรรู้ก่อนเข้ารับวัคซีน เช่น มีการทดสอบวัคซีนในคนหรือไม่ แล้วผลคืออะไร แล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง มีการจัดทำเป็นเอกสารหรือไม่ ถ้าเกิดโรคแทรกซ้อนแล้วหน่วยงานใดจะรับผิดชอบ แล้วเราจะเรียกร้องค่าเสียหายได้แค่ไหน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว ท่านอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงมาก โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท วัคซีนที่ใช้ในปี 1976 หรือ X53A ซึ่งถูกฉีดเข้าไป ส่งผลคือการไปทำลายภูมิคุ้มกันที่เรามีอยู่แล้วตามธรรมชาติ หรือ Antibody เปรียบเสมือนการเปิดทาง ให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าโจมตีได้ง่ายขี้น หากมีอาการป่วย จะมีอาการป่วยเรื้อรัง หรือนานกว่าปรกติ และในวัคซีนยังมี Mercury หรือสารปรอท ที่ใช้ในการรักษาสภาพวัคซีนก่อนจะนำไปฉีด ซึ่งไม่มีการบ่งชี้ว่าปลอดภัยอย่างแน่นอนหรือไม่
JC
วีดีโอลิงค์ที่เกี่ยวข้อง... 1.กรณีตัวอย่างของ Judy Robert Part 1. http://www.youtube.com/watch?v=5lcJt4jX1Vo Part 2. http://www.youtube.com/watch?v=r4c9Is1T3z4 2.แผนที่การระบาด http://www.msnbc.msn.com/id/30435064 Alert!! มีข่าวด่วนมาจากฝั่งอเมริกา
จะมีการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu ในอเมริกา รอบแรกในวันที่ 15 October 2009 และรอบที่ 2 วันที่ 15 November 2009 ถ้าใครไม่รับวัคซีนจะถูกจับเข้าแคมป์กักกัน(Concentration Camp)
ไม่ทราบว่าจะทำพร้อมกันทั้งประเทศหรือเปล่า แต่แหล่งข่าวมาจากทหาร LA, California, ข่าวการสัมนาใน Oklahoma และเอกสารแบบฟอร์มในการเข้าแคมป์จาก Iowa ดูเหมือนว่าการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu ระลอกแรกในอเมริกาจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 15 Oct. 09 ก็คือเดือนหน้านี้แล้ว และระลอกที่ 2 คิอวันที่ 15 Nov. และรัฐแรกเลยก็คือ Massachusette และเท่าที่ได้ข้อมูลมาเป็นไปได้ว่าจะทำพร้อมกันทั่วประเทศนะ เพราะทุกอย่างวางไว้หมดแล้ว และขั้นตอนคือ
1.หน่วยงานที่ดูแลเรื่องไข้หวัด หรือ CDC (หน่วยงานที่ควบคุมการระบาดของโรคติดต่อ)จะประกาศเรื่อง Outbreak หรือการระบาดของไข้หวัด Swine Flu หรือหวัด 2009
2.รัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือ Martial Law หรือกฏอัยการศึกเพื่อให้ coresponse หรือตอบสนอง กับข้อ 1
3.จะมีการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu โดยจะเริ่มที่ เด็ก และหญิงมีครรภ์ คนสูงอายุ และคนปกติตามลำดับ (เค้าผ่านกฏหมายฉบับนี้แล้วใน Lower State 40 กว่ารัฐ)
4.ถ้าใครที่่ "ไม่รู้ทัน" พอที่จะไปรับวัคซีนแล้ว เค้าจะให้สวม Bracelet หรือสายรัดข้อมือที่เป็นเหล็กและมีไมโครชิพฝังอยู่ซึ่งจะเก็บข้อมูลส่วนตัวของคนๆ นั้นทั้งหมด
5.Martial Law จะทำการ bypass หรือระงับใช้รัฐธรรมนูญทั้งหมด คือลืมไปเลยเรื่องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เค้าจะตั้งจุดตรวจของเค้าเรียกว่า Check Point ตามแยกต่างๆ ที่สำคัญทั่วทุกเมืองของอเมริกา โดยหน่วยงานของ CDC และตำรวจท้องถิ่น*** ถ้าไม่มีข้อมือนี้จะเดินทางไม่ได้ในอเมริกาทั้งหมดครับ
6.เมื่อมาถึงจุดตรวจเค้าจะขอดูที่ข้อมือก่อน ถ้าใครไม่มีคือไม่ได้รับวัคซีน เค้าจะมีให้เลือก 2 ทาง คือรับวัคซีนเดี๋ยวนั้นเลย แล้วได้สายรัดข้อมือไป (แล้วค่อยๆ ล้มป่วยและตายในที่สุด) อีกทางเลือกนึงคือต้องขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายกักกันเชื้อโรค หรือ FEMA CAMP ( YT: FEMA Camp, FEMA Coffin ) ที่กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองในอเมริกาตอนนี้ ในค่ายนั้นมีอะไรหรือเป็นยังไง ก็ให้ไปดูที่พวกนาซีเยอรมันเคยทำ "ไม่ต่างกัน" ใครที่เคยเห็นวีดีโอแล้ว นั่นแหละที่เค้าเตรียมทั้งหมดก็เพื่อการนี้ (สังเกตุไม๊ครับว่าทำไมช่วงนี้ วงการหนังฮอลลีวูดทำหนังเกี่ยวกับนาซีเยอรมันออกมาเต็มไปหมด ตั้งแต่ Valkyrie ที่แสดงโดยทอม ครูซ "เค้ากำลังบอกอะไรเราครับ" ของจริงครับ)
7.จากข้อ 6 ใครที่เข้าเมืองหรืออยู่อย่างผิดกฏหมาย เค้าคงเอาเข้า FEMA CAMP หรือค่ายกักกันเลย ไม่ต้องคุย ไม่ต้องหาทนาย หรือต่อรองอะไร เพราะคุณไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว หรือแม้แต่จะยืนอยู่ตรงนั้น ณ เวลานั้น
8.ส่วนใครที่คิดว่าจะหลบได้ตลอดก็ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียว ห้ามเดินทาง แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเค้าจะออกตรวจหรือไม่ และอย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเค้าประกาศ Martial Law อำนาจอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เค้าจะเป็นคนต้ดสินสถานภาพของคุณ คุณไม่มีสิทธ์เลือก เพราะคุณ "ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการไม่รับวัคซีนและซ่อนตัว"
"ขอย้ำว่า" ข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายๆ คนที่เกี่ยวข้อง และไปร่วมสัมนาเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการระบาดของโรค เอาหลักฐานไปดูครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1qQ4iFI5Np8 http://www.youtube.com/watch?v=ft52vJYV1g8
แต่ใน Massachusette มันมีอีก option หรืออีกทางให้เลือกที่จะไม่ฉีด หรือไปเข้าค่ายกักกันเชื้อโรค ก็คือจ่ายค่าปรับวันละ $1,000
http://www.youtube.com/watch?v=2_oD55WvDmM
และนี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของโอบาม่าเองเกี่ยวกับเรื่อง Swine และทั้งสื่อสารพัดชนิด เช่น CNN
http://www.youtube.com/watch?v=kr92sfEpaj4
ดูความเคลื่อนไหวและการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ที่นี่ Update เกือบทุกวัน
http://www.stevequayle.com/News.alert/09_Disease/09_Disease.index.html
สหรัฐประเดิมวัคซีนไข้หวัดใหม่ ด้วยวิธีฉีดพ่นเข้าจมูก ต.ค.นี้ ตั้งเป้าป้องกันชาวบ้านชุดแรก 3.4 ล้านคน พร้อมเตรียมเอาไว้ใช้ภายในประเทศ 195 ล้านชุด จากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน 5 แห่ง ในหลายประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา เตรียมประเดิมใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับชาวอเมริกัน ตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนต.ค.นี้ ด้วยวิธีการฉีด ตั้งเป้าป้องกันชาวบ้านชุดแรก 3.4 ล้านคน การดำเนินการให้วัคซีนจะต่อเนื่องไปตลอดช่วงเดือนต.ค.
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาสั่งเตรียมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เอาไว้ใช้ภายใน ประเทศแล้ว 195 ล้านชุด จากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน 5 แห่ง ในหลายประเทศ
ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 19 กันยายน 2552, 02:07 น. |
ตอบครับ
เป็นการยืนยันครับ 2 วันก่อนผมได้วีดีโอนึงมาเรื่องเค้าจะเอา "เชื้อไวรัสเป็นๆ" ใส่ไว้ในยาพ่นจมูกสำหรับเด็กครับ และนี่อาจจะเป็นคำตอบ เป็นไปได้ว่า "สเปรย์พ่นวัคซีนเข้าทางจมูก" นี่แหละครับคือวิธีการปล่อยไวรัสของพวกมันนั่นเอง ดูกันไปครับ มีความเป็นไปได้สูงครับ เพราะการระบาดครั้งที่ผ่านมาเค้าก็ใช้วิธีนี้เลยครับ
และนี่อาจจะเป็นปัจจัยใหม่ที่เค้าใช้ล้มอเมริกาครับ แล้วโทษไข้หวัดเป็นตัวทำ (เนียนไม๊ครับพวกเรา) เพราะมีข่าวอีกกระแสรายงานมาว่า สิ้นเดือนนี้อเมริกาจะมี Event หรือเหตุการณ์บางอย่าง ผมก็ยังตามดูอยู่ เพราะมันเยอะเหลือกเกินครับ และถ้าเป็นไปตามนี้ เค้าจะใช้เหตุการณ์นี้ล้มเศรษฐกิจของอเมริกา แบบไม่มีใครตั้งตัวติด แล้วจะเป็นโดมิโน่ที่รุนแรงมากครับทีนี้ เพราะฉะนั้นหลังจากควันของ G20 จางลง เห็นทิศทางของทองคำชัดขึ้น ตัวผมเองคงต้องอัดทองเต็มที่เพื่อป้องกันความเสียงครับ เพราะถ้าล้มตามนี้ "ทองระเบิด" จะเกิดขึ้นใน 1-3 เดือนข้างหน้านี้ครับ จับตาดูกันไปครับ.......
วีดีโอลิ๊งค์เรื่อง "ไวรัสในยาพ่นจมูก" :
http://www.youtube.com/watch?v=WwP0JvQtRqM
" อนาคตในเกมไพ่อิลูมีนาติ "
http://www.youtube.com/watch?v=8zEFKT7s75k&feature=related
http://www.youtube.com/watch?v=na45qtKmQhs จากคุณจิมมี่ ---------------------------------------- ช่วยกันดูและวิเคราะห์นะครับ |