อิรักออกกฏหมายห้ามทุกสิ่งที่ฝ่าฝืนหลักการอิสลาม BASRA Fatima Haydar al-Shibil is finally waking up from the nightmare that haunted her entire life. Her alcoholic husband has abused her and her children for years, but now they feel safer as he is much less likely to reach his addiction, since Iraqs southern governorate of Basra banned the sale of liquor. บัสรา ฟาติมา ฮัยดาร์ อัล-ชิบิล หลุดพ้นจากการทรมานเพราะถูกสามีทำร้าย หลังจากฝ่ายปกครองเมืองบัสรา ซึ่งอยู่ทางใต้ของปรแทศอิรัก สั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชิบีลวัย 57 ปีพูดถึงสามีว่าเขาเคยเป็นคนเคร่งครัดในศาสนาเมื่อสมัยหนุ่มๆ แต่เหล้าทำให้เขาเปลี่ยนไป กฎหมายใหม่ที่ผ่านออกมาใช้บังคับมีโทษปรับผู้ขาย ผู้ดื่มในที่สาธารณะเป็นเงิน 5 ล้านดิน่าร์ (4,270 ดอลล่าร์) แต่สำหรับในเขตอื่นๆ รวมทั้งแบกแดดยังมีการอนุญาตให้ขายได้ต่อไป อะฮฺมัด อัล-สุลัยตี รองผู้ว่าเมืองบัสรา ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอิรักกล่าวว่า จะห้ามทุกสิ่งที่ฝ่าฝืนหลักการอิสลาม และจะเป็นตัวอย่างให้เขตอื่นๆ ทำตามด้วย 
| หลายคนกล่าวว่า เรื่องนี้มีแต่จะทำให้ตลาดมืดเฟื่องฟู เพราะคนจะซื้อขายกันอย่างลับๆ ด้วยราคาที่ผู้ขายสามารถกำหนดได้ตามต้องการ แต่ผู้ซื้อที่ต้องการก็เต็มใจจ่าย |
มีความเห็นขัดแย้งกันในเรื่องนี้ โดยอับเดล-การีม อัล-ยันนาบี นักวิเคราะห์การเมือง และอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยบัสราเห็นว่า การห้ามขายเหล้าไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แต่เท่ากับโยนผลประโยชน์ให้พ่อค้าตลาดมืด แต่ชาวอิรักจำนวนมากเห็นว่า การสั่งห้าม เป็นขั้นตอนแรกที่จะใช้ในการปกป้องครอบครัว และบุคคลอันเป็นที่รักไม่ให้มัวเมากับอารยะธรรมตะวันตก โดยเฉพาะมีการสำรวจที่แสดงว่า เยาวชนทั้งหญิง-ชาย เป็นกลุ่มที่ดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น เพราะไม่มีแม้แต่การกำหนดอายุของผู้ซื้อสิ่งเสพติดต่างๆ ในยุคสมัยของซัดดัม ฮุสเซน การบริโภคแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะเป็นสิ่งต้องห้าม แต่รัฐมนตรีกิจการภายในได้ล้มเลิกกฎหมายนี้ในปี 2005 ซึ่งทำให้บาร์ ผับ ร้านขายเหล้ากลับเฟื่องฟูขึ้นอีก หลังจากถูกปิดในยุคซัดดัม |