ทุ่ม 474 ล้านปรับโฉมท่าอากาศยานนราธิวาส เปิดบินตรงซาอุฯรองรับฮัจญ์ สุเมธ ปานเพชร โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา ท่าอากาศยานนราธิวาสกำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ภายหลังจากที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณจำนวน 474 ล้านบาทเศษสำหรับโครงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งของเครื่องบิน ขยายรันเวย์ พร้อมปรับปรุงระบบต่างๆ ของท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเอโอ (International Civil Aviation Organization: ICAO) เพื่อรองรับเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ และเครื่องบินโดยสารระหว่างประเทศ ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางบินจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ด้วย เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2552 เพิ่งมีพิธีลงนามร่วมกันระหว่าง นายสุเทพ อนันตยา รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กับ นายเจริญ จันทร์พลังศรี ประธานกิจการร่วมค้า ไทยโพลีคอนส์ พี.เอส.เอ็ม ในสัญญาโครงการปรับปรุงท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 700 วัน โดยมี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน นายถาวร แสงอำไพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส กล่าวว่า โครงการปรังปรุงท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นโครงการของกรมการขนส่งทางอากาศที่อยู่ในแผนดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2551 เมื่อรัฐบาลอนุมัติงบประมาณลงมา 474,150,000 บาท ทางกรมฯจึงเร่งดำเนินการทันที 
รายละเอียดการก่อสร้างจะเป็นการปรับปรุงขยายทางวิ่งของเครื่องบิน จากเดิมที่มีความยาว 2,000 เมตร จะเพิ่มอีก 500 เมตร เป็น 2,500 เมตร พร้อมลานกลับลำ เสริมผิวทางวิ่ง ทางขับ รวมทั้งปรับปรุงลานจอดเครื่องบินเดิมให้สามารถรองรับการจอดเครื่องบินขนาด 250 ที่นั่ง แอร์บัส A300-600 จำนวน 1 ลำ และโบอิ้ง 737400 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินขนาด 70-100 ที่นั่งอีก 2 ลำ รวมไปถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์แบบ 212/HU-IN จำนวน 2 ลำด้วย
นายถาวร กล่าวต่อว่า การปรับปรุงท่าอากาศยานตามงบประมาณที่ได้รับการอนุมัตินี้ ยังรวมไปถึงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าของสนามบิน ถนนภายในสนามบิน และระบบระบายน้ำให้ได้มาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางอากาศได้จัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว และได้เสนอไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา เมื่อโครงการปรับปรุงแล้วเสร็จ จะทำให้ท่าอากาศยานนราธิวาสมีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นในการรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ อย่าง แอร์บัส A 300 และโบอิ้ง 737 ทำให้การบริการขนส่งทางอากาศมีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้ท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการบินจากพื้นที่สามจังหวัดไปสู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะ โดยไม่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ หรือต้องขึ้นเครื่องที่หาดใหญ่ไปต่อที่สุวรรณภูมิเหมือนในอดีต ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดนราธิวาส ระบุ นายถาวร กล่าวอีกว่า ปัจจุปันท่าอากาศยานนราธิวาสมีสายการบินไทยแอร์เอเชียเพียงสายการบินเดียวที่ให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางกรุงเทพฯนราธิวาส และนราธิวาสกรุงเทพฯ วันละ 1 เที่ยวบินทุกวัน หากการปรับปรุงแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้ผู้ประกอบการสายการบินภายในประเทศให้ความสนใจเปิดบริการมากขึ้น และยังมีศักยภาพรองรับสายการบินต่างๆ ที่จะบินตรงมายังท่าอากาศยานนราธิวาสด้วย ผมคิดว่าโอกาสที่จะมีเที่ยวบินหรือสายการบินต่างๆ มาเปิดให้บริการประชาชนน่าจะเพิ่มมากขึ้น เพราะทางท่าอากาศยานนราธิวาสมีนโยบายยกเว้นการเก็บค่าจอดเครื่องบินให้กับผู้ประกอบการสายการบิน ซึ่งน่าจะช่วยดึงดูดให้สายการบินต่างๆ เปิดเส้นทางบินมายัง จ.นราธิวาส มากกว่าในปัจจุบัน ในส่วนของอาคารผู้โดยสาร แม้จะไม่ได้อยู่ในงบประมาณการปรังปรุงท่าอากาศยานในครั้งนี้ แต่ นายถาวร บอกว่า ศักยภาพของอาคารผู้โดยสารสามารถรองรับได้ 400 คนต่อชั่วโมง มีพื้นที่รวม 5,000 ตารางเมตร ทุกวันนี้เที่ยวบินที่มีอยู่มีการใช้พื้นที่ของอาคารผู้โดยสารเพียง 75 เปอร์เซนต์ของพื้นที่ทั้งหมด จึงคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาหากในอนาคตมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องความปลอดภัย ก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับเดียวกันกับท่าอากาศยานอื่นๆ จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
สำหรับท่าอากาศยานนราธิวาส เดิมชื่อว่า สนามบินบ้านทอน กองทัพอากาศสร้างขึ้นบนที่ดินราชพัสดุ มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,137 ไร่ ที่หมู่ 11 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อใช้ในกิจการของกองทัพโดยเฉพาะ มีทางวิ่ง 30 x 1,000 เมตร ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและไม่มีอุปกรณ์เครื่องช่วยการเดินอากาศ ต่อมาในปี พ.ศ.2517 มีการก่อสร้างพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในโอกาสเสด็จแปรพระราชฐานเยี่ยมเยียนพสกนิกรในพื้นที่ จ.นราธิวาส และใกล้เคียง กรมการขนส่งทางอากาศจึงได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาสนามบินให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับเครื่องบินพระที่นั่ง เครื่องบินของพระราชอาคันตุกะ และบุคคลสำคัญ ตลอดจนเครื่องบินพาณิชย์ ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี แม้ท่าอากาศยานนราธิวาสจะสามารถรองรับเครื่องบินพาณิชย์ได้ แต่ก็ยังมีศักยภาพน้อยเกินไปสำหรับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในพื้นที่นี้ รัฐบาลจึงมีโครงการก่อสร้างปรับปรุงท่าอากาศยานดังกล่าว ปัจจุบันท่าอากาศยานนราธิวาสมีเส้นทางคมนาคมคือทางหลวงสายนราธิวาส-บ้านทอน เชื่อมระหว่างสนามบินกับอำเภอเมืองนราธิวาสอย่างสะดวกสบาย โดยตัวท่าอากาศยานอยู่ห่างจากตัวเมืองนราธิวาสไปทางทิศเหนือประมาณ 13 กิโลเมตร |