สำนักข่าวมุสลิมไทย ชุมนุมฮิญาบวัดหนองจอก อีหม่ามดังหนองจอกตั้งป้อม ด่าเช็ดพวกหัวรุนแรง
มุสลิมหลายร้อยคนหลายร้อยคนร่วมให้กำลังใจ นร.มุสลิมที่ประสงค์คลุมฮิญาบ เข้าเรียนในโรงเรียนวัดหนองจอก ผลการประชุมร่วมกับผอ.โรงเรียน ย้ำชัดคลุมหิญาบไม่ได้ อ้างติดกฏระเบียบ เชิญอีหม่าม (อาจารย์สอนอิสลามศึกษา) ร่วมอัด “ปล่อยหมัด!! ผมไม่ได้อยู่ข้าง รร.,พวกคุณทำรุนแรงเกินไป,จะทำให้คนในพื้นที่ขัดแย้ง,อยากให้กรุงเทพฯเป็นแบบภาคใต้รึ”
แหล่งข่าว หนังสือพิมพ์ไทยแลนด์ดารุสลาม (TND) รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (9) มีกลุ่มพี่น้องมุสลิมจำนวนมากรวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอกเพื่อให้กำลังใจน้องสาวนักเรียนมุสลิมะห์ ที่ประกาศเจตนารมณ์ยืนหยัดในหลักการศาสนา ด้วยการคลุมฮิญาบไปเรียนหนังสือ แม้โรงเรียนจะออกคำสั่งห้ามคลุมฮิญาบ แต่ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการอนุญาต และคำสั่งของโรงเรียน มีศักดิ์น้อยกว่าระเบียบกระทรวง
โดยพี่น้องจำนวนมากได้รวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอกตั้งแต่เวลาประมาณ 6.30 น. และเดินทางมาสมทบกันเป็นจำนวนกว่าร้อยคน พร้อมส่งนักเรียนชั้นม.6 ที่ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน จะคลุมฮิญาบเข้าเรียนหนังสือ โดยนักเรียนได้เดินเข้าโรงเรียนในเวลาประมาณ 7.30 น.โดยมีรองผอ. และฝ่ายปกครองของโรงเรียน นำเด็กและผู้ปกครองไปไว้ที่ห้องประชุม

ผู้ปกครองผู้รับมอบอำนาจ อ.ยงยศ เกตุเลขา ได้แจ้งว่าที่มาวันนี้เพื่อให้กำลังใจกับเด็ก ขณะที่อ.จิระโรจน์ มะหมัดกุล แจ้งว่า ลูกหลานต้องการเป็นคนดี และปฏิบัติตามระเบียบ ถือเป็นสิ่งที่น่าส่งเสริม ด้านฝ่ายกฏหมายของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ นายซักรียา สุขจันทร์ บอกว่ามาทวงถามสิญญาที่ผอ.เคยบอกว่าเด็กมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
จากนั้น ผอ.ดร.ประพนธ์ หลีสิน อ้างว่าการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ บางสิทธิถูกจำกัดด้วยกฏหมายลูก และอ้างว่าโรงเรียนอยู่ในที่เช่าของวัด และได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ตามการแนะนำของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานมัธยมศึกษาเขต 2 ซึ่งเป็นต้นสังกัด โดยอ้างว่าผมไม่ได้ทำอะไรได้เอง บางอย่างต้องอาศัยอำนาจกรรมการสถานศึกษา พร้อมกล่าวว่าวัดก็ไม่เข้าใจผม บอกว่าต้องไล่ผมออกที่ปล่อยให้มีเด็กคลุมหัวเข้ามาในโรงเรียน
ด้านฝ่ายกฏหมายของกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ แย้งว่าถ้าได้เรียนกฏหมาย ในวิชาศักดิ์แห่งกฏหมายระบุชัดเจนว่า ถ้ากฏหมายใด ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ให้ยกกฏหมายนั้น
 ภาพ ให้กำลังใจนักเรียนคลุมฮิญาบ
ขณะที่ผู้ปกครองผู้รับมอบอำนาจ แจ้งว่า ถ้ากฏหมายลูกขัดกับกฏหมายแม่ ก็ถือว่าให้ยกกฏหมายดังกล่าว และระเบียบของโรงเรียนขัดกับระเบียบของกระทรวงศึกษาธิกรจะนำมาอ้างไม่ได้
จากนั้นรองผอ.สุธีร์ ได้อ่านเอกสารที่ทางสำนักงานมัธยมศึกษาเขต 2 ให้ดำเนินการ โดยอ้าง พรบ.คุ้มครองเด็ก โดยอ้างว่าใน พรบ.บริหารราชการกระทรวงฯ พรบ.คุ้มครองเด็กระบุว่าเด็ก เด็กต้องปฏิบัติตามระเบียของโรงเรียน ดังนั้นพรบ.คุ้มครองเด็กมีศักดิ์สูงกว่าระเบียบกระทรวง
กรณีนี้ทางฝ่ายกฏหมายกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติแย้งว่า โรงเรียนกำลังทำให้กฏหมายมั่ว โดยอ้างมาปะปนกัน ทั้งที่เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว
โดยที่อิหม่ามชาตรี แอนดารีส อิหม่ามประจำมัสยิดดารุสลาม (บาหยัน) ในฐานะที่เป็นวิทยากรอิสลามศึกษาของโรงเรียนดังกล่าวได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในห้องประชุมโดยบอกว่า ตนสอนที่นี่มา 18 ปี เคยทำเด็กเรื่องการคลุมฮิญาบหลายครั้งแต่เด็กไม่ค่อยตอบรับ กลัวว่าทำไปแล้วเด็กไม่เอาด้วย ต้องดูขอบเขตความเป็นไปได้ด้วย ไม่ได้หมายความว่าปฏิเสธคำสั่งของอัลลอฮฺ แต่ได้ทำเต็มที่แล้ว
นอกจากนั้นอิหม่ามชาตรียังได้กล่าวหากลุ่มที่สนับสนุนให้เด็กนักเรียนคลุมฮิญาบว่า "กลุ่มที่มามีเรื่องแอบแฝง ผมไม่มั่นในใจความบริสุทธิ์" พร้อมกล่าวอีกว่า "ผมไม่ได้ปฏิเสธศาสนา แต่เมื่อกฏระเบียบเป็นไปไม่ได้เราก็ต้องรอวันฟ้าใส ให้ดูขอบเขตความเป็นไปได้ ที่นี่กำลังอยู่กันดี ไม่อยากให้ที่นี่เหมือนภาคใต้ ซึ่งมาจากการจุดประกายเช่นนี้ละ"(การจุดประกายดังกล่าวหมายถึงการปกป้องนักเรียนมุสลิมะห์ ที่ต้องการยืนหยัดในหลักการศาสนาในการปกปิดเรือนร่างของตนเองตามหลักการอิสลาม)
ขณะที่อ.ศอดิกีน อับดุลบารีย์ ที่ปรึกษากลุ่มมุสลิมเพื่อสันติกล่าวว่า "รับไม่ได้ที่อิหม่ามบอกว่าเรามีวัตถุประสงค์แอบแฝง บอกว่าเรามาโววายทั้งที่ ผอ.บอกว่าเรามาแบบกัลยานมิตร เราไม่ยอมรับกับข้อกล่าวหานี้"
นอกจากนี้ อ.ศอดิกีน ยังระบุอีกว่า "วิสัยทัศน์ของโรงเรียนบอกว่าพัฒนาคุณธรรม ตกลงว่าเด็กคลุมฮิญาบมีความผิดอะไร"
ดร.ประพนธ์ ชี้แจงว่า "ในการประชุมร่วมกับ รมต.นิพิฐธ์ รมต.รับไปทำเนินการ แต่ยังไม่ไม่มีข้อสรุปส่งมา โรงเรียนก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบไปก่อน"
ซึ่งกรณีนี้ นายเฉลิมพร มะละกีมะ เลขาธิการกลุ่มมุสลิมเพื่อสันติแย้งว่า "ในการประชุมวันนั้นได้ข้อสรุป และรมต.ได้ระบุชัดเจนแล้วว่าเด็กคลุมฮิญาบเข้าเรียนได้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต และผอ.อยู่ในที่ประชุมด้วยก็ไม่ได้โต้แย้งคำพูดของรัฐมนตรี"
จากนั้น ผอ.ได้ให้ตัวแทนจากกรรมการนักเรียน มาพูด โดยกล่าหาเด็กนักเรียนมุสลิม และศาสนาอิสลามว่า อย่าบ้าตามกฏหมายให้มากนัก รู้อยู่แล้วว่าที่นี่ไม่ให้คลุมฮิญาบ ทำไมมาเรียนที่นี่ ตอนนี้ทำให้ที่โรงเรียนคุยกันเรื่องศาสนาไม่ได้ ศาสนาของคุณมีแต่สร้างปัญหา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนก็มีแต่เรื่อง อย่างในอิรัก อัฟกานิสถาน หรือภาคใต้
โดยระหว่างการพูดของเด็กที่กล่าวโจมตีศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง หลายฝ่ายได้พยายามห้ามไม่ให้เด็กพูดต่อ แต่ทางผอ.ให้พูดต่อ จนเห็นว่าหลายฝ่ายเริ่มทนไม่ไหว จึงตัดบท

ครู โรงเรียนวัดหนองจอก สามารถคลุมฮิญาบได้
จากนั้น น.ส.อาทิตยา สุไลมาน นักเรียนที่ประกาศจุดยืนที่จะยืนหยัดในหลักการศาสนากล่าวว่า "หนูเป็นคนไทยคนหนึ่ง หนูมีสิทธิที่ะจเรียนในโรงเรียนของรัฐบาล และกฏหมายไม่ได้ออกมาเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง"
ทั้งนี้ผอ.ได้ประกาศชัดว่า นักเรียนมุสลิม ยังไม่สามารถคลุมฮิญาบเข้ามาในโรงเรียนได้ ถ้าคลุมมาตามระเบียบกระทรวง โรงเรียนก็จะดำเนินการตามระเบียบโรงเรียน
 รางวัลแห่งความภูมิใจ
โดยขณะที่บรรยากาศการให้กำลังใจเด็กนักเรียนมุสลิมในการคลุมฮิญาบเข้าโรงเรียน เป็นไปอย่างตึงเครียดเนื่องจากโรงเรียนยังคงยืนยันไม่อนุญาตให้นักเรียนคลุมฮิญาบตามหลักการศาสนาอิสลามเข้าเรียนหนังสือได้ แต่กลับมีนักเรียนชายหญิงกลุ่มหนึ่งของโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก มานั่งหยอกล้อในเชิงชู้สาวกันที่ใต้ตนไม้ติดกับรั้วของโรงเรียนด้านที่ติดกับริมถนน โดยไม่สนใจสายตาของผู้ที่พบเห็น ทั้งที่ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเรียนก็ตาม และไม่มีครูคนใดของโรงเรียนออกมาตักเตือน หรือทำโทษเหมือนเด็กนักเรียนที่คลุมฮิญาบไปโรงเรียนซึ่งโรงเรียนอ้างว่าการคลุมฮิญาบผิดระเบียบโรงเรียน และอ้างว่าต้องเคารพสิทธิของวัดเนื่องจากโรงเรียนเช่าที่วัดจึงคลุมฮิญาบเข้าเรียนไม่ได้
ประมวลภาพ
|