สำนักข่าวมุสิลมไทย ผลสำรวจ: ร้อยละ 92 ของหนุ่ม-สาวอาหรับต้องการประชาธิปไตย
สำนักข่าวอัล-อาราบิญา – ผลการสำรวจล่าสุด เปิดเผยว่า ร้อยละ 92 ของหนุ่ม-สาวอาหรับต้องการให้ประเทศของตน เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งประชาชนต้องการความอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจดีเป็นหลัก

จากการสำรวจที่สอบถามชาวอาหรับ 2,000 คนในช่วงเดือนธันวาคม 2553 – มกราคม 2554 ร้อยละ 65 กล่าวว่า การได้อยู่ในประเทศประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
แต่หลังจากมีการจลาจลเกิดขึ้นในภูมิภาคอาหรับในช่วงเดือนมกราคม มีการสำรวจประชาชาชนเพิ่มเติมจำนวน 500 คนซึ่งพบว่า ความต้องการในการปกครองแบบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากจำนวนเดิม
ชาวอาหรับที่ตอบแบบสอบถาม 2,000 คนแรก มีอายุระหว่าง 18-24 ปี เป็นชายร้อยละ 60 จากประเทศบาห์เรน คูเวต โอมาน กาต้าร์ ซาอุดี้ เอมิเรตส์ อียิปต์ จอร์แดน เลบานอน และอิรัก
ส่วนอีก 500 คนที่สอบถามเพิ่มขึ้นระบุว่า ร้อยละ 77 ต้องการใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดจากภัยคุกคามของการก่อการร้าย เพิ่มจากเดิมซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 58 ส่วนความเห็นด้านความมั่นคงภายใน ร้อยละ 89 ในจำนวนนี้กล่าวว่า สำคัญที่สุด
การสำรวจดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง ASDA’A ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ในดูไบ กับบริษัท Penn Schoen Berland ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสำรวจระดับนานาชาติ
จากการสำรวจดังกล่าวยังพบว่า ทัศนะด้านการเมืองของหนุ่ม-สาวอาหรับเหล่านี้เริ่มเป็นเสรีนิยมมากขึ้น โดยได้รับการเรียนรู้จากมหาอำนาจต่างๆ อาทิ อังกฤษ สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน กับอินเดีย ซึ่งอาจจะมีอิทธิพลน้อยกว่าชาติตะวันตกบ้าง
จากการสำรวจในประเทศสมาชิกอ่าวอาหรับ (GCC) ร้อยละ 65 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า การมีงานทำเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เปรียบเทียบกับการสอบถามคนในประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอ่าวอาหรับ อยู่ที่ร้อยละ 55
สำหรับการสอบถามประชาชนในประเทศอิรักพบว่า ให้ความสำคัญในประชาธิปไตยมากที่สุด โดยร้อยละ 91 ของคนหนุ่ม-สาว หรือ 9 ใน 10 คน กล่าวว่า การอยู่อาศัยในประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง เปรียบเทียบกับหนุ่ม-สาวในกาต้าร์ ซึ่งให้ความสำคัญกับการปกครองแบบประชาธิปไตยเพียงร้อยละ 33 ผลสำรวจดังกล่าวสามารถเปรียบเทียบตัวเลขให้เห็นเด่นชัด ดังนี้
- 65% ของการสำรวจในปี พ.ศ.2553 เห็นว่า การอยู่ในประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตยสำคัญมาก - 92% ของการสำรวจในปี พ.ศ.2554 เห็นว่า การอยู่ในประเทศที่ปกครองแบบประชาธิปไตยสำคัญมาก - 48% จัดอันดับให้การเพิ่มค่าครองชีพเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง - 43% มีความกังวลห่วงใยในช่องว่างระหว่างคนรวย – คนจน - 61% เชื่อว่าประเทศที่ตนอยู่มุ่งไปถูกทางแล้ว
การสำรวจดังกล่าวสรุปทัศนะของผู้ตอบแบบสอบถามได้ว่า - ประชาชนต้องการประชาธิปไตย - มีความกระตือรือร้นต้องการค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น - ห่วงใยในช่องว่างระหว่างคนมี-คนจน - มองในแง่ดีน้อยลง เมื่อพูดถึงประเด็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอนาคตของประเทศ - มีช่องว่างระหว่างการศึกษาที่แตกต่างในประเทศสมาชิกอ่าวอาหรับ กับประเทศอาหรับอื่นๆ - มีการเลือกที่จะทำงานในภาคส่วนเอกชน และทำธุรกิจของตัวเองเพิ่มขึ้นกว่าเดิม - อินเตอร์เน็ตมีส่วนสำคัญเพิ่มขึ้น รวมทั้งการสื่อสารผ่านสื่อสังคม - ข่าวโทรทัศน์เป็นแหล่งที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุด - ให้คุณค่าของขนบประเพณีสูงสุด และบิดา-มารดามีอิทธิพลมากขึ้น - มีทัศนะในทางบวกต่อพลังของโลกาภิวัตน์ และมีสำนึกในการเป็นส่วนหนึ่งประชาคมโลกเพิ่มขึ้น
- www.muslimthai.com |