สำนักข่าวมุสลิมไทย น้ำตาหนูไหล เหลืบสังคมจ้องล้มงาน ‘มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้’? ของพวกเรา
คลิกชมภาพข่าว เปิดตัวงานมหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้ ที่ ททท.แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2553
ช่วงระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00-22.00 น. ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซอยรามคำแหง 2 ย่านคลองตัน กรุงเทพฯ จะมีงานใหญ่ระดับประเทศ ในชื่องาน ‘มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้’ เป็นเวลา 3 วัน
เป็นการจุดพลุโดย ‘นายอะหมาน หมัดอาดัม’ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส ซึ่งดูแลรับผิดชอบการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่จังหวัด นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ร่วมกับ ‘มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย’ ในฐานะเจ้าของสถานที่ มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว สินค้าและผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงวัฒนธรรมที่โดดเด่นของมุสลิมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และ ปัตตานี

ด้วยงานนี้เป็น ‘ครั้งแรก’ ของ ททท.สำนักงานนราธิวาส ที่มาจัดงานในกรุงเทพฯ จึงนับเป็นงานสำคัญของ ‘นายอะหมาน’ ในฐานะ ผอ. ในระยะ 5-6 ปีมานี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ปลายด้ามขวาน จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลักจากมาเลเซียที่เคยทะลักเข้ามาใน อ.สุไหงโกลก
ส่วนนักท่องเที่ยวไทยนั้นไม่ต้องพูดถึง แทบไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป จึงทำให้การท่องเที่ยวในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตกอยู่ในภาวะซบเซา
ที่ผ่านมา งบประมาณในแต่ละปีซึ่งการท่องเที่ยวฯ สำนักงานนราธิวาส ได้รับจัดสรรจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ มีจำนวนเพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับสำนักงานอื่นๆ ด้วยการท่องเที่ยวในสามจังหวัดถูกมองว่าอยู่ในภาวะที่ขุนไม่ขึ้น!!
กระนั้น ทั้งที่อะไรๆ ไม่เอื้ออำนวย ‘นายอะหมาน หมัดอาดัม’ ในฐานะ ผอ.การท่องเที่ยวฯ สำนักงานนราธิวาส ก็พยายามพลิกแพลงทุกกระบวนท่า เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในพื้นที่ซึ่งตนรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง
ในห้วงปีที่ผ่าน ‘อะหมาน’ ได้คิดริเริ่มแคมเปญ ‘ตามรอยอารยธรรมอิสลามชายแดนใต้’ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมุสลิมจากจังหวัดต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ มีการจัด ‘ทริป’ นำผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ประกอบการ และผู้สื่อข่าวมุสลิมจากส่วนกลางลงไปเยี่ยมชม 2-3 ครั้ง ซึ่งได้ผลตอบรับออกมาในเชิงบวก
งาน ‘มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้’ ที่จะจัดขึ้น จึงเป็นการต่อยอดจาก แคมเปญ ‘ตามรอยอารยธรรมอิสลามชายแดนใต้’ ซึ่งนายอะหมาน และการท่องเที่ยวฯ สำนักงานนราธิวาส คาดหวังว่าจะช่วยพลิกฟื้นการท่องเที่ยวในสามจังหวัดขึ้นมา ซึ่งเป็นผลงานที่น่าชื่นใจ ในระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเลยที่มีนักท่องเที่ยวมุสลิมกลุ่มใหญ่ๆ เหยียบย่างพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนใต้
และด้วยงบประมาณที่มีอย่างจำกัดอย่างที่กล่าวมา งาน ‘มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้’ ครั้งนี้ ททท.นราธิวาส จึงต้องดึงสปอนเซอร์เข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสปอนเซอร์หลายรายที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องสามจังหวัด

งานทุกอย่างทำท่าว่าจะลื่นไหลไปได้ดี แต่แล้วก็ต้องเจอ ‘มารผจญ’ ใช้วิชาไชตอน เมื่อมีจดหมายสนเท่ห์แอบอ้างชื่อ กรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ร่อนไปยังททท.สำนักงานใหญ่ และสปอนเซอร์บางราย
เนื้อหาจดหมาย เขียนด้วยจิตใต้สำนึก บวกแนวคิดวิชามาร ย้ำชัดๆ อย่าให้งานพี่น้องสามจังหวัดชายแดนใต้ ได้มาจัดที่ศูนย์กลางฯ และยังชี้ว่า การแสดงลิเกฮูลู ที่เป็นมหรสพ ผิดหลักการศาสนา

และที่แรงสุดก็คือกล่าวหาว่า นายอะหมาน ร่วมกับเพื่อนบางคน หาประโยชน์เข้ากระเป๋าตนเอง? เรียกว่างานเข้าอย่างจัง!
ซึ่งมาสืบรู้ภายหลังว่า การจ้องล้มงาน ‘มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้’ ครั้งนี้เป็นฝีมือของพวกกินบนเรือนขี้บนหลังคา
กลุ่มคนจำพวกนี้มิเคยคิดถึง หัวจิตหัวใจของคนทำงาน มุ่งกล่าวร้าย ให้ความเท็จ หลอกแอบอ้างชื่อมูลนิธิศูนย์กลางฯ หวังเพียงอย่างเดียว “มหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้ อย่าเกิด” หรือกลัวว่าพี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ ลืมตาอ้าปากได้ กระนั้นหรือ
หาพึงรู้ไม่ว่า พี่น้องจากชายแดนใต้ หวังพึงงานนี้มากน้อยขนาดไหน ต้องเตรียมการ เตรียมงานหลายเดือน อีกทั้งต้องเดินทางจากภาคใต้มาพักแรมในเมืองกรุง มันเหนื่อยหนักขนาดไหน กลุ่มคนพวกนี้มิเคยใส่ใจ
หวังแค่ซะใจ ตู!
พวกนี้เหลือบสังคมจริงๆ!
พี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ อย่าตกใจ ยังมีคนหมู่มาก ให้กำลังใจ ให้โอกาส พร้อมสนับสนุนงานอย่างเต็มที่ อุปสรรคจาก "เหลือบสังคม" เป็นเพียงการทดสอบจากพระองค์อัลเลาะห์เท่านั้น เพราะทุกกระทำ และเจตนา พระองค์ย่อมรู้ดีกว่าใครทั้งสิ้น
ขอดุอาร์ให้ความสงบสุข จงเกิดขึ้นกับพี่น้องชายแดนใต้ในเร็ววัน
- ขอให้พระองค์จงเปิดใจ “เหลืบสังคม”
- ได้โปรดให้อภัยในสิ่งที่พวกเค้าหลงผิดด้วยเถิด-www.muslimthai.com
งานมหกรรมท่องเที่ยวชายแดนใต้ วันที่ 5-6-7 พ.ย. 2553 ทีศูนย์กลางอิสลามฯ รามคำแหงซอย 2 ข้อมูลเพิ่มเติม www.muslimthai.com/pny |