สำนักข่าวมุสลิมไทย ประกาศแล้ว คำพิพากษามัสยิดบาบรีในอินเดีย
ข่าวเอเจนซี่ – ศาลสูงอัลลาฮาบัดได้ออกคำพิพากษาแล้วเมื่อวันพฤหัส (30/09) ต่อกรณีพิพาทมัสยิดบาบรีในเมืองอโยธยา ซึ่งทั้งฮินดู และมุสลิมต่างอ้างสิทธิในการเป็นเจ้าของ

โดยผู้พิพากษา S.U. Khan ได้อ่านคำพิพากษาว่า ให้ทั้ง 3 กลุ่มร่วมกันเป็นเจ้าของพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งได้แก่มุสลิม ฮินดู และองค์กรศาสนาของฮินดู แต่ศาลไม่อนุมัติให้กลุ่มมุสลิมสร้างมัสยิดขึ้นใหม่แทนที่มัสยิดบาบรีที่ถูกทำลายไปในการจลาจลเมื่อปี 1992 ซึ่งทันทีหลังจากมีการอ่านคำพิพากษา ก็มีข่าวจะมีการอุทธรณ์คดีขึ้นไปยังศาลสูงสุด
จากคำพิพากษาดังกล่าว พื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยมุสลิมได้ 1 ส่วน อีก 2 ส่วนตกเป็นของฮินดู และองค์การศาสนา รวมทั้งพื้นที่ตรงกลางที่ฝ่ายฮินดูมีแผนจะสร้างวัดใหญ่ขึ้น
ก่อนการอ่านคำพิพากษา ทางการได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการก่อจลาจล โดยมีการปิดโรงเรียนและสถานที่ทำงานใกล้บริเวณดังกล่าว ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามการชุมนุมเกิน 5 คน และทางการยังได้เกณฑ์กองกำลังผสมมาเพิ่ม จากเจ้าพนักงานตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะมีการหวั่นเกรงกันว่า จะมีการก่อเหตุร้ายเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันกีฬาคอมมอนเวลธ์ ซึ่งจะเริ่มในไม่กี่วันข้างหน้านี้ในอินเดีย
พรรคฝ่ายค้าน BJP ซึ่งกระพือประเด็นการสร้างวัดฮินดูขึ้นแทนที่มัสยิดบาบรี ประกาศชัยชนะของฝ่ายฮินดูหลังการประกาศคำพิพากษา
ซัยยิด อะฮฺมัด บุคอรี อุละมะอฺใหญ่แห่งมัสยิดจามาในกรุงนิวเดลี แสดงความไม่พอใจในคำตัดสินดังกล่าว แต่หลายฝ่ายคิดว่าน่าจะไม่มีการก่อความรุนแรงขึ้น
ปัจจุบันพื้นที่ที่เดิมเป็นมัสยิดถูกกั้นไว้อย่างแน่นหนา และมีหน่วยรักษาความปลอดภัยจำนวนมากคุ้มครองอยู่ Rajeev Dhawan นักกฎหมายรัฐธรรมนูญที่มีชื่อเสียง แสดงความผิดหวังกับคำตัดสินดังกล่าว และว่า ศาลละเลยความรับผิดชอบในการสืบค้นข้อมูลว่าใครคือเจ้าของพื้นที่ที่แท้จริง ซึ่งสิ่งนี้จะต้องทำในเบื้องต้นก่อนจะมีการตัดสินแบ่งพื้นที่ - www.muslimthai.com |