สำนักข่าวมุสลิมไทย อินเดีย ฮินดูหรือมุสลิมจะเป็นเจ้าของที่ดินของมัสยิดบาบรี

ดูไบ – ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้ ศาลอินเดียจะพิพากษาคดีตัดสินว่า ระหว่างฮินดู กับมุสลิม ใครจะได้เป็นเจ้าของที่ดินที่เป็นที่ตั้งของมัสยิดบาบรีซึ่งถูกทำลายไป

ในปี 1992 มัสยิดบาบรีถูกทำลายลงทั้งๆ ที่ศาลสูงได้ออกคำสั่งให้ปกป้องมัสยิดดังกล่าว โดยในตอนแรกมีการรณรงค์ซึ่งบานปลายกลายเป็นการจลาจลที่มีการเมืองเข้ามาแทรก มีประชาชนเข้าร่วมทั้ง 2 ฝ่ายประมาณ 150,000 คน

การจลาจลครั้งนั้นนับว่าเป็นความรุนแรงทางศาสนาครั้งที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่การแบ่งแยกเป็นประเทศอินเดีย และปากีสถาน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,000 คน จากการจลาจลที่เกิดขึ้นระหว่างฮินดู-มุสลิมทั่วประเทศ

มัสยิดบาบรีตั้งอยู่ในเมืองอโยธยา แคว้นอุตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย สร้างขึ้นในปี 1527 โดยจักพรรดิ์มุสลิมนาม Babur และมีความขัดแย้งกันในการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของระหว่างฮินดู กับ มุสลิมมาช้านาน

ผู้นำคณะกรรมการบริหาร ออล อินเดีย มุสลิม กล่าวว่า มุสลิมไม่ขัดข้องหากจะมีการสร้างวัดฮินดู และมัสยิดเคียงข้างกัน แต่ศาลยังไม่ได้มีคำตัดสินออกมาในเรื่องนี้

เมาลานา อับดุลรอฮีม กุเรชี่ เลขานุการ และโฆษกของ Muslim Personal Law Board กล่าวในเมืองไฮเดราบัดเมื่อวันจันทร์ว่า ศาลสูงอาลาฮาบัดน่าจะพิพากษาให้พื้นที่ที่เป็นตัวมัสยิด รวมทั้งที่มีโดมทั้ง 3 และบริเวณด้านในเป็นของมุสลิม

ในขณะที่ลานด้านนอกซึ่งเป็นที่ตั้งวัดฮินดู Ram Chabutra น่าจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายฮินดู เพราะชุมชนชาวฮินดูได้ใช้สถานที่นี้ประกอบศาสนกิจมากว่า 150 ปี และหากเป็นเช่นนั้นจริง ฝ่ายมุสลิมก็คงไม่โต้แย้ง

ต่อกรณีในปี 1885 ที่มีนักบวชฮินดูอ้างว่า Ram Chabutra กับมัสยิดบาบรีเป็นสถานที่เดียวกัน และเป็นที่ประสูติของ Ram และมีหลายคนได้อ้างข้อนี้ในศาล ซึ่งกุเรชี่กล่าวว่า มุสลิมไม่ได้โต้แย้งการอ้างนั้น หากหมายถึงเฉพาะพื้นที่ของวัด Ram Chabutra แต่หากฝ่ายฮินดูอ้างว่ามัสยิดบาบรี เคยเป็นวัดฮินดูมาก่อน ดังนั้นก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ แต่ต้องไม่ใช่หลักฐานที่อ้างจากแหล่งที่มาของเอกสารที่ชาวอังกฤษเป็นผู้เขียนไว้ เพราะมีการสมคบคิดกันทำขึ้นซึ่งไม่อาจเชื่อถือได้

สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลออกคำเรียกร้องผ่านทางหนังสือพิมพ์ ให้ประชาชนทั่วประเทศอยู่ในความสงบไม่ว่าศาลจะออกคำพิพากษาเช่นไร

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีมานโมฮาน ซิงค์ กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจที่ยากยิ่ง เนื่องจากไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไร พรรคคองเกรสของเขาก็ต้องคิดหนักทั้งขึ้น ทั้งล่อง

มัสยิดบาบรีได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในรัฐอุตรประเทศ ซึ่งมีประชากรมุสลิมประมาณ 31 ล้านคน -www.muslimthai.com