ไทยรัฐ-
นคร มาฉิม - นราพัฒน์ แก้วทอง - ไพฑูรย์ แก้วทอง
คลื่นลมในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สงบดี หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี "มาร์ค 5" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสลับตำแหน่งใน 3 เก้าอี้เสนาบดีของพรรค ซึ่งบุคคลที่ให้พ้นจากเก้าอี้สุดที่รักครั้งนี้ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
2 รายแรกไม่เท่าไหร่ เพราะมีการพูดจาเคลียร์กันเข้าใจตั้งแต่ทีแรก แต่รายหลังสุดนี่เป็นปัญหา นับแต่เริ่มแรกมีการประชุม ส.ส.ของพรรค พอทราบว่านายไพฑูรย์ ถูกปรับพ้นจากเก้าอี้ กลุ่มก๊วน ส.ส.เด็กในสังกัด โดยเฉพาะอย่างยิิ่ง ส.ส.ในภาคเหนือ และ อีสานบางกลุ่ม ที่นายไพฑูรย์คอยเลี้ยงดูปูเสื่อ เป็นหัวหอกนำทัพฟันฝ่าอุปสรรค จนได้รับการเลือกให้มานั่งในสภาอันทรงเกียรติหลายต่อหลายสมัย ถึงกับอดรนทนไม่ไหว รีบประชุมลับออกมาพร้อมกับข้อเสนอให้ นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค "ต้องทบทวนใหม่"
นายนคร มาฉิม ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายไพฑูรย์ มีความพร้อม มีศักยภาพ นอกจากจะเป็นรัฐมนตรีที่บริหารดีแล้ว ยังนำพาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตภาคเหนือและอีสานให้ต่อสู้อย่างเข้มข้น จนได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด ท่านเป็นคนรู้จริง ทำจริง รู้วัฒนธรรมการเมืองอย่างดีเยี่ยม รู้เขารู้เรา รู้ทิศทางการเมือง
เสธ.หนั่น พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์
แม้แต่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายไพฑูรย์ อย่างนายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร เองถึงขั้นอยู่ไม่ได้ต้องออกมาระบุว่า ส.ส.ในกลุ่มภาคเหนือ และ อีสาน มาคุยกับคุณพ่อถึงเรื่องนี้ บอกไม่เหมาะสม และตนก็รู้สึกงง ไม่ทราบว่านายกฯคิดอย่างไร และไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หากบอกล่วงหน้าให้รู้ตัวก่อน คุณพ่อคงไม่เสียความรู้สึก ยอมรับว่าคุณพ่อน้อยใจ แต่ก็ยอมรับได้ ตอนนี้จะอยู่พรรคต่อไป แต่อนาคตเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ อยู่กับสถานการณ์ข้างหน้า
ขณะที่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเสียความรู้สึกนิดหนึ่งตรงที่ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในระดับเรา ควรจะมาปรึกษา แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้ซีเรียสมากมาย เพราะอายุมากแล้ว แต่ก็เป็นห่วงคนรุ่นหลัง รุ่นหนุ่ม รุ่นลูก ตนก็ยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงทำงานเป็น ส.ส.ช่วยพรรคไปก่อน อนาคตไม่แน่นอน
ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์
อีกด้านเป็นการรุกคืบเดินเกมทางการเมืองโดยอาศัยลมที่กำลังเปลี่ยนทิศ ของผู้เฒ่าการเมืองอย่าง เสธ.หนั่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ พยายามจับขัั้ว โทรศัพท์หานายไพฑูรย์ทันที มีการพูดพถึงการรวบรวม สมัครพรรคพวก ส.ส.ในกลุ่มต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มภาคเหนือ เพื่อตั้งพรรคใหม่ รอสู้สึกงวดหน้า
"ก็ไม่แน่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องอนาคต"นี่คือวาทะที่แฝงด้วยนัยยะทางการเมืองของ"ไพฑูรย์ แก้วทอง"
"นายไพฑูรย์ แก้วทอง" ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ลำดับ 4 ดำรงตำแหน่ง ส.ส. 11 สมัย เป็นรัฐมนตรี 6 สมัย เจ้าของธุรกิจรับเหมา อาทิเช่น บริษัทสระหลวง ก่อสร้าง, บริษัทชาละวัน เทรดดิ้ง, บริษัท ก.นราพัฒน์ ซึ่งเป็นแหล่งทุนแหล่งใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ มาช้านาน
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550 นายไพฑูรย์รับผิดชอบดูแลพื้นที่โซน 2 (ภาคเหนือตอนล่างและภาคอีสานบางส่วน รวม 9 จังหวัด) และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วน เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ในลำดับที่ 1 โดยสามารถนำทีมชนะการเลือกตั้งรวม 3 คน
ขณะที่อีกฟากหนึ่งเป็นเสียง ส.ส.ภาคตะวันออก ที่ไม่พอใจ ยอมรับว่าการที่นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถูกปรับออกนั้นเหมือนทัพหัวขาด พร้อมกับขอทวงโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรีให้ทางกลุ่ม เพราะมี ส.ส.อยู่กว่า 20 คน แต่ไม่ปรากฎชื่อใครเป็นรัฐมนตรีเลยสักคน
นายสรวุฒิ เนื่องจำนง ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มติของ ส.ส.ภาคตะวันออกของพรรคเคารพในการตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่ก็ขอให้คำนึงถึงสัดส่วน ของจำนวน ส.ส.ในภาคตะวันออก ที่มีมากกว่า 20 คนว่า ส.ส.ภาคตะวันออกไม่มีคนดีมีความสามารถแล้วหรืออย่างไร ประชาชนในภาคนี้ต่างรอคอยความหวังที่จะให้มีรัฐมนตรีที่มาดูแลพื้นที่ ต้องยอมรับว่าถ้าไม่มีรัฐมนตรีดูแลพื้นที่ภาคต่างๆ การเชื่อมโยงโครงการ แผนงาน ระดับชาติใน ครม.ก็จะบกพร่องและลดความสำคัญลง
"จะขอเข้าพบนายกฯเพื่อหารือ ในเร็วๆนี้" อีกแข็งๆห้วนๆของสรวุฒิ ที่สะท้อนนัยยะทางการเมือง ผ่านความเป็น ส.ส.กลุ่มตะวันออก ที่น่าฟังไม่แพ้เสียงกลุ่มภาคเหนือ อีสาน
เมื่อลมเปลี่ยนทิศ ขั้วการเมืองก็อาจเปลี่ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับการเมืองไทย เพราะอะไรที่ไม่แน่เกิดมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ปชป.เองก็พึงสังวร !!! |