มุสลิมไทยดอทคอม  นครมาดินะ  อนุญาตให้ไม่ใช่มุสลิมสามารถเข้าอยู่อาศัยได้

     ในอดีตที่ผ่านมา มีเพียงมุสลิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยในมาดินะ หรือมักกะฮฺ ได้ แต่ขณะนี้กำลังจะมีการสร้าง “สมาร์ท ซิตี้” ขึ้นในเมืองมาดินะ และหากเสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีการอนุญาตให้คนต่างศาสนิกสามารถเข้าอยู่อาศัยได้

     ซามี บารอม ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มซาโวล่า ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนใหญ่เจ้าของโครงการ Knowledge Economic City (KEC) แห่งแรกในซาอุดี้กล่าวว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ 4.8 ล้านตารางเมตร ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการจะอยู่นอกแผ่นดินต้องห้าม (ฮะรอม) โดยคาดว่าโครงการจะเปิดใน 5 ปีข้างหน้า แต่การก่อสร้างเต็มรูปแบบจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 15 ปี ใช้เงินลงทุน 30 พันล้านริยัล หวังให้เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยว และการค้าของมาดินะ

     บารอมกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ชาวต่างศาสนิก จะได้รับประสบการณ์ในการอยู่ร่วมกับมุสลิมในนครศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสียทีเดียว แต่ก็ใกล้ชิดจนสามารถมองเห็นไฟที่เปิดในมัสยิดนาบาวีได้

     กษัตริย์อับดุลเลาะฮฺทรงบริจาคที่ดินในการทำโครงการ ซึ่งมีมูลค่า 1 พันล้านรียัล โดยมูลนิธิการกุศลกษัตริย์อับดุลเลาะฮฺ  จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และจะนำเงินรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการดังกล่าว เข้ามูลนิธิเพื่อจัดหาบ้านพักแก่คนยากจนต่อไป

     นอกจากแผนสร้างที่พักอาศัยที่สามารถจุคนได้ประมาณ 150,000 คนแล้ว KEC ยังวางแผนเดินรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อม 2 เมืองศักดิ์สิทธิ์ กับเมืองเจดดะฮฺ ซึ่งเส้นทางรถไฟจะมีความยาว 450 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังว่า KEC จะเป็นศูนย์อุตสาหกรรม และข่าวสารด้านเทคโนโลยี รวมทั้งจะมีนักธุรกิจหนุ่มสาวมุสลิมหน้าใหม่ สนใจเข้ามาดำเนินกิจการในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะมีอัตรางานว่างถึงกว่า 20,000 ตำแหน่ง

     KEC ยังวางโครงการสร้างศูนย์ศึกษาอารยธรรมอิสลาม โดยออกแบบให้เป็นศูนย์รวมของปัญญาชน และนักวิชาการ ซึ่งเน้นในการรวบรวม พัฒนา และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทุกด้าน รวมทั้งด้านศิลปะอิสลาม และการไขข้อข้องใจในปัญหาร่วมสมัยเกี่ยวกับอิสลาม เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในธนาคารแบบอิสลาม เป็นต้น  - www.muslimthai.com