|
||
M Southern : มุสลิมจะนะ เดินหน้าลุย แจกใบปลิวทวงคืนดินวะกัฟ วายิบ มุสลิมรับผิดชอบร่วมกัน | ||
วันที่ 5 สิงหาคม 2552 เวลา 14:00 น. พี่น้องมุสลิมซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มปกป้องที่ดินวะกัฟและขอทวงคืน จากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จำนวน ประมาณ 50 คน ได้แจกเอกสารใบปลิว ให้พี่น้องมุสลิมในงาน มหกรรมเปิดโลกฮาลาล : วัฒนธรรมสัมพันธ์ ณ มัสยิดกลางจังหวัดสงขลา ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายหลังจากยื่นหนังสือต่อต่อ ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะมาเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาในใบปลิวโดยสรุป ดังนี้ จากการที่สำนักจุฬาราชมนตรี มีคำวินิจฉัย กรณี ที่ดินวะกัฟในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ไทย-มาเลเซีย อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ส่งถึง บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่าทางสาธารณะดังกล่าวได้มาโดยการวะกัฟของชาวมุสลิม ซึ่งผลการวินิจฉัยดังกล่าวสนับสนุนให้บริษัทฯ ใช้เป็นข้ออ้างในการบุกรุก ปิดกั้น และเข้าครอบครองที่ดินวะกัฟ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องมุสลิม มีผลกระทบกระเทือนต่อบทบัญญัติศาสนา เนื่องจากเป็นฐานให้รัฐบาลพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ใช้ออกกฎหมายพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินสาธารระ (ที่ดินวะกัฟ) ดังกล่าว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2549 อันเป็นการออกกฎหมายขัดแย้งต่อหลักการศาสนาเพื่อให้เป็นประโยชน์ และสร้างความชอบธรรมให้แก่ บริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด วะเระและพี่น้องมุสลิมผู้ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียนไปหลายครั้งหลายครา รวมถึงร้องเรียนต่อนายอาศีส พิทักษ์คุมพล แต่ทางคณะกรรมการฯ และทางจุฬา กลับไม่รับฟังข้อเท็จจริงที่รอบด้านอย่างเพียงพอ ใช้ข้อมูลเดิมที่รับฟังเพียงด้านเดียวคือรับฟังจากบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางวะกัฟหรือไม่ ล่าสุด ตัวแทน กก.อิสลามจังหวัดสงขลา ซึ่งมีนายมุหรอด ใบสะมะอุ (บอยูม)ประชุมร่วมกับพี่น้องมุสลิมผู้ได้รับผลกระทบ สรุปนัดหมายกันว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบพื้นที่ที่ดินวะกัฟ ในวันที่ 10 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา แต่จู่ๆคณะกรรมการฯ กลับขอยกเลิกกลางคันโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม หรือจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล อาจทำให้ประชาชนผู้ทราบเรื่องราวเข้าใจไปได้ว่า กก.อิสลามจังหวัดสงขลา และสำนักจุฬาราชมนตรีดำเนินการเรื่องนี้โดยตั้งใจให้เป็นไป เพื่อสมประโยชน์ของบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด จึงขอให้พี่น้องมุสลิมร่วมกันตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว ว่าการกระทำเช่นนี้ ได้ทำไปเพื่อประโยชน์อันใดกันแน่ และจะเกิดผลกระทบกระเทือนเพียงใดต่อกิจการศาสนาในประเทศไทย เรื่องราวเช่นนี้อาจเกิดขึ้นกับที่ดินวะกัฟ กุโบร์ มัสยิด ในหมู่บ้านของท่านในอนาคตก็เป็นได้ สำหรับกลุ่มปกป้องที่ดินวะกัฟฯ และพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ คงทำได้เพียงขอดุอาจากอัลลอฮฺ (ซบ) ได้โปรดประทานความเมตตาให้แก่บรรดาเหล่าผู้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมดังกล่าวให้ได้มีโอกาสทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงความผิดพลาดของพวกเขาเหล่านั้นที่ได้กระทำขึ้น นายดลรอหมาน โต๊ะกาหวี หนึ่งในผู้มาร่วมแจกใบปลิว ชี้แจงว่า พวกเราพยายามประสานงาน ร้องเรียนถึงท่านอาศีส พิทักษ์คุมพล ในฐานะประธานกรรมการอิสลามสงขลา ให้สร้างกระบวนการสอบสวนที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาอิสลาม ฟังความทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ได้รับความสนใจใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ทายาทของผู้วะกัฟ พร้อมที่จะยืนยันว่า เป็นที่ดินวะกัฟจริง แต่ทำไมไม่ฟังแล้วไปสรุปว่าไม่มีหลักฐานว่าเป็นที่ดินวะกัฟ เท่ากับสนับสนุนการออกกฎหมายบีบบังคับให้พวกเราต้องยอมรับการกระทำที่ขัดต่อหลักศาสนา เรื่องนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิดได้ว่าจงใจยกที่ดินวะกัฟให้เพื่อผลประโยชน์ของนายทุนข้ามชาติ นายเจะหมัด สังข์แก้ว เพิ่มเติมว่า บาบอยูม (หมายถึงนายมุหรอด ใบสะมะอุ) รับปากกับพวกเราแล้ว ในฐานะรองประธานกรรมการอิสลามสงขลา ว่า จะมาดูพื้นที่ ดูที่ดินวะกัฟ แล้ว สอบสวนวะเระกับพยานกัน มาสร้างกระบวนการสอบสวนที่เที่ยงธรรมร่วมกัน นัดกันวันที่ 10 มิถุนาที่ผ่านมานี่เอง แล้วอยู่ๆ บาบอยูมก็ให้จดหมายมายกเลิกซะเฉยๆ เราจึงต้องมาแจกใบปลิวให้พี่น้องมุสลิมช่วยกันตรวจสอบ ช่วยกันติดตามให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขซักที .............................................. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ดลรอหมาน โต๊ะกาหวี 081-542-7525 สุไรดะห์ โต๊ะหลี 081-0944-359 ......................................... |
||
พิมพ์จาก : http://muslimthai.muslimthaipost.com/main/index.php?page=sub&category=94&id=4062
วันที่ : 21 เมษายน 64 9:57:23 สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ http://www.muslimthaipost.com |