สำนักข่าวมุสลิมไทย เลขาสุรินทร์ จับมือ กอจ. ปล่อยหมัดเด็ด รุกฆาตอดีตเลขาฯพิเชษฐ์

         เมื่อวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2553 ได้มีการประชุมประจำเดือน ของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) โดมทอง ทั้งนี้มีการพิจารณาวาระต่างๆมากมาย ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ได้มีวาระสืบเนื่องหลายวาระด้วยกัน เพราะเหตุว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ไม่ได้มีการประชุม เพราะคณะกรรมการส่วนมาก ได้ไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดิอาราเบียนั้นเอง

         และเมื่อวันพุธที่ 8 ธันวาคม 2553 นำโดยท่านจุฬาราชมนตรี และ กอท. นำเงินจำนวน 2 ล้านบาท (ที่ได้รับบริจาคจากการจัดรายการทีวี ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ทางช่อง 11,ได้รับเงินบริจาคกว่า 4 ล้านบาท) ไปบริจาคให้แก่ผู้สบอุทกภัยภาคใต้ จังหวัดสงขลา และวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม 2553 จะมีการนำเงิน 1 ล้านบาทไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย จังหวัดพัทลุง

กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

         แหล่งข่าวรายงานว่า ตามที่สำนักข่าวมุสลิมไทยได้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ กรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2553 อ้างอิงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ของสำนักงานตำรวจ นครบาลลำหัน โดยนางสาว ม (นามสมมุติ) ได้รับมอบอำนาจจากนายพิเชษฐ สถิรชวาล ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับ นายอิสมาแอล อาลี พร้อมกับพวกอีก จำนวน 13 คนในฐานะความผิด ซ่องโจร

โดยมีความผิด (พอสังเขป)
- การเบิกจ่ายเงินของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยไม่เป็นไปตามระเบียบของ กอท.
- การเบิกจ่ายเงินนำไปใช้เพื่อการอื่น โดยมิได้ตรงตามวัตถุประสงค์
- เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ห้องประชุม กอท. ให้นำเงินที่หักจากค่าตอบแทนที่ปรึกษาเข้าบัญชี 20% ไปเปิดบัญชีที่ธนาคารอิสลาม สาขามีนบุรี โดยมีผู้ลงนาม 3 คน  (เงินค่าตอบแทนที่ปรึกษา เป็นทรัพย์สินของ กอท. การเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบ)

      ซึ่งการแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว สร้างความประหลาดใจให้กับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย( กอท.) เป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า เลขาฯสุรินทร์ และกอท. ได้มีมติร่วมกันที่จะดำเนินการฟ้องร้อง คุณพิเชษฐ สถิรชวาล เช่นเดียวกัน โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
- กล่าวเท็จ และสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ
- ทำความเสื่อมเสียต่อองค์กรศาสนา
- พฤติกรรมไม่เหมาะสม

      แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า ตอนนี้มีเหตุการณ์และพฤติกรรมหลายๆอย่างที่อยากจะเปิดโปง ซึ่งอาจจะสร้างความฮือฮาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พฤติกรรมหรือการกระทำของอดีตผู้บริหารองค์กรด้านฮาลาล ได้กระทำการผิดศีลธรรม สร้างตราบาป อย่างร้ายแรง แต่เวลาพูดคุย ยกตัวเอง อวดอ้างว่าเป็น "เทพด้านฮาลาล" ซึ่งข้อมูลและเรื่องราวดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนได้ในตอนนี้ เพราะอาจจะทำให้เสียรูปคดีได้นั้นเอง

       ทั้งนี้คาดว่าการไต่สวนการทำงานตั้งแต่อดีต จนถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของอดีตเลขาฯ จะนำไปสู่บทพิสูจน์ที่ถูกต้องและกระจ่างชัดในทุกๆเรื่องที่สังคมส่งสัย เคลือบแคลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นบรรทัดฐานและกรณีศึกษาว่า ต่อไปการทำงานของทุกฝ่าย ทุกแผนกของ กอท. จะต้องมีความโปร่งใส พร้อมตรวจสอบได้ตลอดเวลานั้นเอง-www.muslimthai.com