สำนักข่าวมุสลิมไทย สมาคมผู้ประกอบการฮัจย์ จัดเสาวนา กรม!เก็บห้าหมื่น ไปฮัจย์ได้จริงหรือ?
12.00 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี เรียกนายกสมาคมผู้ประกอบการฮัจย์ภาคใต้ เข้าพบหารือถึงปัญหา ที่หาดใหญ่
14.00 ขณะนี้ มีการร่วมชุมนุมที่ภาคใต้ ณ.มัสยิดกลาง จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 14.00น. มีมุสลิมเข้าร่วมกว่า 8,000คน ไม่มีที่นั่ง
ในเบื้องต้น ผู้ประกอบการจะรอฟังผล "การไต่สวนของศาลปกครอง" ว่าจะมีผลออกมาอย่างไร ในขณะเดียวกันก็มีการเตรียมการที่จะยื่น ถวายฎีกา ในปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วยต่อไป
ที่ศูนย์กลางอิสลามฯ วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554 ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้หลายร้อยคน
อ.ซาฟีอี นภากร กล่าวถึงประเด็นความเหมาะสม กรณีนำเงินห้าหมืนบาทไปฝากไว้ที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านได้ฝากข้อคิดว่า ปัจจุบันนี้ ธนาคารอิสลาม นั้นมีการบริหารการงานที่แปลก ในเบื้องต้นมีลูกผสมในการทำงาน มีทั้งมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม โดยเฉพาะธุรกรรมหลายๆอย่างที่ธนาคารได้สร้างกิจกรรมขึ้นมา ไม่ได้บ่งชี้เลยว่าเป็นธนาคารอิสลามที่บริสุทธิ์ โดยย้ำว่าธนาคารอิสลามที่แท้จริงจะต้องมีบริบทที่ชัดเจน มุ่งช่วยเหลือมุสลิมหรือลูกค้า มิใช่ตั้งเป้าเพื่อจะเอากำไรกับลูกค้าเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นหากธนาคารมุ่งเน้นเพื่อขูดรีดหรือสร้างกำไร โดยไม่ได้คำนึงถึงการช่วยเหลือลูกค้าให้อยู่ได้ แล้วมันจะต่างๆอะไรกับธนาคารทั่วไปที่ขูดรีดด้วยดอกเบี้ย แต่ธนาคารอิสลามขูดรีดด้วยผลตอบแทน
มุสลิมทุกคน ควรที่จะใช้เงินที่บริสุทธิ์จริงๆ ดังนั้นการนำเงินไปฝากธนาคารซึ่งทุกคนแน่ใจได้หรือไม่ว่ามันไร้ดอกเบี้ย100%
 ภาพการร่วมกิจกรรม ที่กรุงเทพฯ









ตามที่คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ประเทศไทยได้ออกมติในการประชุมครั้ง 1/2554 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2554 บังคับให้ผู้ประกอบกิจการฮัจย์ทั่วประเทศจำนวน 99 ราย
ทั้งนี้การออกมติดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบพิธีฮัจย์และผู้ประกอบกิจการฮัจย์ทั่วประเทศ
ห้ามผู้ได้วีซ่าฮัจย์เดินทางหากไม่มีตราประทับของกรมศาสนา เป็นการละเมิดเอกสิทธิทางการฑูตของราชอาณาจักรซาอุฯ ผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย- www.muslimthai.com
|