FBI รายงาน คนยิว-คนดำ เป็นเหยื่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังสูงสุด
เอเอฟพี - คนผิวดำ และผู้นับถือศาสนายิว มักตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมอันเกิดจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ศาสนา ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2009 มากที่สุด สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปีเมื่อวานนี้ (22) ในจำนวนคดีอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังในกรณีต่างๆ จำนวน 6,604 คดีของสหรัฐฯ เมื่อปี 2009 มีอยู่ราว 4,000 คดีมีบ่อเกิดจากการเหยียดสีผิว และอีกประมาณ 1,600 คดีมีแรงขับมาจากความเกลียดชังต่อศาสนาใดศาสนาหนึ่งเป็นการเฉพาะ เอฟบีไอ รายงาน คนผิวดำตกเป็นเหยื่อคดีอาชญากรรมจำนวนถึง 3 ใน 4 ของคดี ที่เกี่ยวกับการเหยียดสีผิว ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการต่อต้านศาสนา ผู้นับถือศาสนายิวก็ถูกกระทำในฐานะเหยื่อจำนวน 3 ใน 4 ของคดีอาชญากรรมต่อต้านศาสนาเช่นกัน และคดีที่กระทำต่อชาวมุสลิม ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ รายงานดังกล่าวระบุ คดีอาชญากรรมจากความเกลียดชังไม่ได้จำกัดเฉพาะการทำร้ายร่างกายบุคคล หรือ ทรัพย์สิน จากสาเหตุของการเหยียดผิว หรือต่อต้านศาสนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความลำเอียงต่อรสนิยมทางเพศ ชาติพันธุ์ และความพิการของบุคคลนั้นๆ ด้วย “เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้ต้องสงสัย 3 คนเพิ่งถูกฟ้องร้องในรัฐนิวเม็กซิโก ฐานทำร้ายร่างกายชายพิการชาวพื้นเมือง นาวาโฮ” รายงานดังกล่าวระบุ ในคดีเกี่ยวกับความเกลียดชังอื่นๆ มีคนนำบ่วงแขวนคอไปแขวนไว้หน้าบ้านของชาวฮอนดูรัสอพยพในรัฐลุยเซียนา ขณะที่อีกคดีหนึ่ง ชายคนหนึ่งถูกดำเนินคดีฐานวางเพลิงโบสถ์ของชาวนิโกรในรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยรวม มีคนตกเป็่นเหยื่อคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชังประมาณ 8,300 ราย ในปี 2009 ซึ่งลดลงมาจากจำนวน 9,700 รายในปีก่อนหน้า คดีอาชญากรรมดังกล่าวจำนวน 6,225 คดีที่สามารถชี้ตัวคนร้ายได้ทั่วทั้งสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว ปรากฏว่า ผู้ต้องหาเป็นคนผิวขาวถึง 2 ใน 3 ขณะที่คนผิวขาวเองตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมเพียง 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เอฟบีไอ รายงาน |