ครูนิภา อาจไม่มีชื่อเสียง แบบครูอุ๊ ครูสมศรี ครูลิลลี่ อาจารย์อรรณพ อาจารย์โต้ง อาจารย์ปิง อาจารย์สงวน ซุปเค และอื่นๆ ที่เป็นสุดยอด ติวเตอร์ กวดวิชา ยอดนิยมแห่งยุค
"ครูนิภา"สอนวิชาสังคมศึกษา ตั้งแต่ยังสาว ๆ จนเกษียณไปแล้ว กว่า 23 ปีแล้วก็ยังเป็นครู ในความทรงจำของบรรดาลูกศิษย์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ลูกศิษย์ของครูนิภาที่จบจาก "พรหมานุสรณ์" เป็นอธิบดีในหลายกระทรวง เป็นนายพล นายพัน นับไม่ถ้วน เป็นนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เป็นนายแพทย์ใหญ่ เป็นนักธุรกิจร้อยล้านหมื่นล้านนับนิ้วไม่ถ้วน แต่แน่นอนว่า ลูกศิษย์ที่เป็นคนธรรมดา ๆ แต่ไม่เคยลืมครูตัวเล็ก ๆ ก็มีไม่ใช่น้อย
ครูนิภาในวัย 84 ปี ตัวเล็กลงมาก สวมแว่นกรอบใหญ่เหมือนเดิม แต่ยังคงแข็งแรง ทว่า สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ความทรงจำเกี่ยวกับลูกศิษย์ เรียกว่า จำได้เกือบทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นแรก คือ รุ่น ปี 2493 จนถึงรุ่นปี 2530
ไม่แปลกที่ วันนี้ บรรดา ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ต่างก็เกษียณตามครูนิภา แต่ความเป็นครูกับศิษย์ก็ไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลา
นี่เองทำให้งานฉลอง 7 รอบอาจารย์นิภา คับคั่งและอบอุ่น เมื่อลูกศิษย์จากทั่วสารทิศ เดินทางกลับมาหาครูอันเป็นที่รัก
ในห้วงเวลาที่บรรดาลูกศิษย์กล่าวอวยพร และตัดเค้กวันเกิด ครูนิภา ตื้นตันใจ น้ำตาซึม พูดเบาๆ ว่า วันนี้ มีความสุขที่สุด ซาบซึ้งใจกับน้ำใจที่ลูกศิษย์เอื้ออาทรกับครูเก่าและแก่
แต่ความหลังที่ครูนิภา เล่าให้ลูกศิษย์ฟัง เป็นครั้งแรก อาจทำให้หลายคนประหลาดใจ !!!
"จริงๆ แล้ว ตอนเป็นนักเรียน ไม่เคยคิดจะเป็นครู ดิฉันอยากเป็นหมอมาก ไปสอบหมอได้ แต่ที่สุด ไม่ได้เรียนหมอ ต้องไปเรียนครู ที่วิทยาลัยครู สวนสุนันทา ที่ผักไห่ เพราะเป็นช่วงสงครามโลก แล้วที่สุดก็เลยต้องเป็นครู ตอนนั้นเสียใจมากที่ไม่ได้เป็นหมอ "
เรื่องเล่า ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครูไปตลอดกาลก็คือ นางสาวนิภา สอบติดหมอ แต่ระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรตกลงที่บ้าน ทำให้จดหมายให้ไปรายงานตัวนักเรียนแพทย์ ...หายไป ไม่มีใครรู้ว่า นิภา เอี่ยมสำราญ เด็กเรียนเก่งติดบอร์ดของจังหวัดเพชรบุรี ไม่ได้เป็นหมอ เพราะระเบิดเจ้ากรรมลูกนั้น
จริงๆ แล้ว ถ้าวันนั้นได้เป็น หมอ อาจไม่น่าประทับใจและซาบซึ้งใจ เท่ากับเป็นครู ในวันนี้
เพราะปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่าง หมอ กับ คนไข้ จบลงด้วยการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ไม่มีใคร ยกมือไหว้หมอด้วยความสนิทใจเท่ากับยกมือไหว้ครู
เช่นเดียวกับ ไม่มีใคร ยกไหว้ ผู้พิพากษา อย่างสนิทใจ เพราะในศาลมีฝ่ายโจทก์และจำเลย ใครชนะก็ยกย่องว่า ยุติธรรม ใครแพ้ก็นินทาว่าร้าย ต่างนานา
ถามว่า อะไรทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่าง ครูนิภา กับ ลูกศิษย์ ไม่จางหายไปตลอดระยะเวลา 50-60 ปี เมื่อเทียบกับอาจารย์สมัยนี้ นักเรียนแทบจำชื่ออาจารย์ไม่ได้ หลังรับสมุดพกไปได้ไม่นาน
อาจเป็นเพราะความรัก ความปรารถนาดี และหัวใจของคนที่เป็นครูอย่างแท้จริงนั่นเอง
นี่คือ สิ่งที่ อาจารย์ยุคใหม่ ไม่มี พวกเขาเป็นอาจารย์ เพราะมันคือ อาชีพ ที่จ่ายค่าจ้างเป็นเงินเดือน หรือ จ่ายค่าเรียนกวดวิชา ด้วยอัตราที่แพงกว่าโรงเรียน
ตอนเข้าไปอวยพรครู ผมกระซิบบอกครูเบา ๆ ว่า " ผมไม่ได้ เก่ง ฉลาด และร่ำรวย แบบคนอื่นเขา แต่สิ่งที่ผมมีมากกว่า ใครหลายคนคือ ผมยึดมั่นในคำสอนของครู เรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องเป็นธรรม เสมอมา "
ครูนิภา บอกว่า คำพูดของผม คือ ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดของครู !!!
แล้วงานเลี้ยงก็เลิกรา บรรดาลูกศิษย์หลายรุ่น บอกว่า จะมาพบกันอีก ตอนครูอายุ 92 ปี.