พอได้แล้ว พวกอนาธิปไตย!
กลับมาบ้านที่ต่างจังหวัดในราตรีนี้ มีคนมาดักรอขอถามคำถามหลายคน โดยเฉพาะท่านที่สนใจในกีฬาสีที่พยายามเข้ามาพูดจา เพื่อจะพาให้เราเข้าไปเกี่ยวดองหนองยุ่งกลับกลุ่มสีของตนเอง เมื่อเราไม่เอาด้วย ไอ้คนหนึ่งในกลุ่มนี้ก็ออกลูกนักเลงแถมยังอ้างเอากฎหมู่มาขู่ พร้อมทั้งพูดจาเฉไปในทำนองว่า เห็นท่าคุณนิติภูมิจะสนใจในลัทธิคอมมิวนิสต์ไปซะแล้วกระมัง?
ผมว่าไอ้พวกนี้มันจะบ้าการเมืองมากไปหน่อยแล้วละครับ แถมยังทำตัวเหมือนข้าราชการสมัยก่อนตอนโน้นที่เที่ยวโยนข้อหาให้ผู้คน ใครคนไหนที่เข้ากับพวกตนก็สรรเสริญเยินยออออวยกันยกใหญ่
ใครที่ไม่เห็นด้วยกับไอ้กลุ่มบ้านี่ ก็จะกลายเป็นคนเลว เมื่อก่อนผมอาจจะกลัวไอ้พวกนี้โจมตี โดยการแต่งเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายป้ายสี
แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้วครับ แถมยังอยากจะกระชากหน้ากากฉากหลังอันโสมมออกมาให้ประชาชนคนทั่วไปได้เห็นอีกด้วย
คนที่เคยเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ไม่มีใครไปบ้าสนใจลัทธิคอมมิวนิสต์ดอกครับ มีแต่จะปราบคอมมิวนิสต์ อย่างนิติภูมินี่ก็ทำงานจนได้เหรียญพิทักษ์เสรีชน คอมมิวนิสต์เป็นเรื่องไดโนเสาร์เต่าล้านปี แต่คนบางกลุ่มกลับทำร้ายประเทศด้วยการสร้างลัทธิอนาธิปไตยให้กับแผ่นดิน
ที่เราล้าหลังกันอยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้ ล้าหลังกว่าลาวและเขมรในเรื่องการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็เพราะเราโดนลัทธิอนาธิปไตยกระทำ
ทุกประเทศในโลกนี้จะต้องมีกฎหมาย กฎหมายอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ทว่าลัทธิอนาธิปไตยเน้นให้คนทั้งหลายมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม (บางประเทศเป็นสี) โดยไม่สนใจกฎหมายหรือกฎเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น คนที่สนใจในลัทธินี้จะใช้กลุ่มคนกดดันให้เรื่องต่างๆ เป็นไปตามความต้องการของคนในกลุ่มตนเอง โดยที่ไม่ต้องสนใจคนหมู่มาก ความต้องการของคนกลุ่มของข้าเป็นใหญ่
คนที่เป็นต้นแบบคิดเรื่อง anarchism หรือลัทธิอนาธิปไตย ก็คือ นายปีแยร์ โชแซฟ ปรูดง นายคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของลัทธิอนาธิปไตย ประเทศไหนเจอเข้าไป ประเทศนั้นก็เข้ายุคสองมาตรฐาน ปกครองกันไม่ได้
ต่อมามีชาวรัสเซียคนหนึ่ง ซึ่งศึกษาวิจัยเรื่องการเอาลัทธิอนาธิปไตยมาใช้อย่างจริงจัง ไอ้คนนี้คือ นายมิฮาอิล อะเล็กซานโดรวิช บาคูนิน แกคิดวิธีการที่เอาลัทธิอนาธิปไตยมาปฏิบัติอย่างละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน สังคมโลกในสมัยนั้นก็จึงกลัวไอ้คนนี้มาก เพราะไปสร้างตั้งกลุ่มที่ไหน ความเจ๊งไปเยือนที่นั่น สังคมแตกแยก ผู้คนทะเลาะเบาะแว้งกันเองไม่รู้จบ แถมยังไม่ฟังรัฐบาล ในทางกลับกัน รัฐบาลกลับต้องฟังไอ้กลุ่มนี้ ต้องเอาคนจากกลุ่มนี้ไปเป็นตัวแทนทำหน้าที่สำคัญในรัฐบาล
นายบาคูนินแกสอนสาวกของแกว่า ถ้าต้องการให้สังคมล่มจม ต้องโจมตีผู้นำก่อน เพราะจะทำให้รัฐบาลล้ม แกสอนถึงขนาดว่า ถ้าจำเป็นก็ต้องเร่งสังหารกลุ่มผู้นำ เพราะแกเชื่อว่าถ้าประเทศปราศจากผู้นำซะแล้ว รัฐบาลก็จะล้มไปเอง
ถ้ารัฐบาลล้มไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะปรับตัวให้ดีขึ้นได้เองโดยตามธรรมชาติ
ผู้อ่านท่านที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ ท่านจะเห็นว่าในคริสต์ ศตวรรษที่ 19 จึงมีการปลงพระชนม์พระเจ้าซาร์อะเล็กซานเดอร์ที่ 2 ของรัสเซีย ฆ่าประธานาธิบดีมารีฟรองซัว ซาดี การ์โน ของฝรั่งเศส จักรพรรดินีซาเบทแห่งออสเตรีย พระเจ้าอุมแบร์โตที่ 1 ของอิตาลี และฆ่าประธานาธิบดีวิลเลียม แมกคินลีย์ ของสหรัฐอเมริกา
ที่จริงลัทธิอนาธิปไตยยังมีแผนที่จะฆ่าผู้นำระดับโลกมากกว่านี้ ทว่า หลังจากการฆ่าเสร็จสิ้นไปลอตแรกแล้ว ก็ยังไม่เห็นมีรัฐบาลไหนสลายตัว ผู้คนที่สนับสนุนลัทธิอนาธิปไตยจำนวนไม่น้อยจึงเห็นความไร้ประโยชน์โคตรอันตรายของลัทธินี้ ก็ถอนตัวกันไปทีละคนสองคน
ตอนแรกก็ยังมีคนคิดว่าลัทธิอนาธิปไตยเป็นสังคมนิยมประเภทหนึ่ง แต่หลังจากฆ่าผู้นำไปเยอะ และไปสร้างความแตกแยกในประเทศต่างๆ มาแยะ ผู้คนก็เริ่มเข้าใจว่าลัทธิอนาธิปไตยไม่ใช่สังคมนิยม องค์กรคอมมิวนิสต์สากลที่ 1 จึงไล่นายบาคูนินออกจากองค์กร
พวกที่บ้าลัทธิอนาธิปไตยจึงไปตั้งศูนย์ของตัวเองในสเปน และใช้สเปนเป็นศูนย์การก่อการร้าย ในห้วงช่วงระยะ 4-5 ปีแรกของการโดนลัทธิอนาธิปไตยแผลงฤทธิ์ สถานการณ์การเมือง และสังคมของสเปนก็เป็นเหมือนกับสถานการณ์ของประเทศไทยในระหว่าง พ.ศ. 2548-2553 นี่แหละ แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย และประเทศเป็น 2 มาตรฐานอย่างชัดเจน
โชคดีที่สเปนมีคนมองโลกทะลุปรุโปร่งได้อย่างนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก หลังจากที่ประชาชนคนทั่วไปเริ่มรู้แล้วว่าพวกสมาชิกของลัทธิอนาธิปไตยนี่อันตราย แกจึงปราบพวกนี้อย่างรุนแรงไม่ไว้หน้า พวกอนาธิปไตยตีแกได้แต่ในห้วงช่วงเพียงแรกๆ แต่ต่อมาก็ไม่มีประชาชนเอาด้วย นายพลฟรังโกก็ลงมือปราบพวกอนาธิปไตยอย่างไม่กลัวโดนตอบโต้กลับ เอาจนแพ้ราบคาบ
ผู้อ่านท่านครับ บ้านเราน่าจะมีคนอย่างนายพลฟรังโกบ้าง ประเทศ ชาติบ้านเมืองจึงจะได้สงบร่มเย็นเหมือนกับประเทศอื่นเขาบ้าง.
นิติภูมิ นวรัตน์ |