สำนักข่าวมุสลิมไทย 89 รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลามทั่วประเทศยกเครื่องใหม่ เตรียมปรับวิทยฐานะตามเกณฑ์ ม.อัลอัซฮัร ไคโร
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 ที่ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ โดมทอง คลองเก้า มีการจัดการประชุมเพื่อหารือการปรับปรุงวิทยฐานะโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตามหลักเกณฑ์มหาวิทยาลัย อัล อัซอัร กรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์

โดย สำนักจุฬาราชมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ประจำประเทศไทย ทั้งนี้มีตัวแทนจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจากทั่วประเทศ 13 จังหวัด จำนวน 89 โรงเรียนดังนี้
1. กรุงเทพฯ 17 โรงเรียน 2. นนทบุรี 4 โรงเรียน 3. ฉะเชิงเทรา 3 โรงเรียน 4. อยุธยา 1 โรงเรียน 5. นครศรีธรรมราช 2 โรงเรียน 6. เพชรบุรี 1 โรงเรียน 7. พัทลุง 1โรงเรียน 8. สตูล 1 โรงเรียน 9. เชียงใหม่ 1 โรงเรียน 10. สงชลา 4 โรงเรียน 11. ปัตตานี 23 โรงเรียน 12. ยะลา 17 โรงเรียน 13. นราธิวาส 11 โรงเรียน
ในวันดังกล่าว จุฬาราชมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวกับผู้ร่วมประชุมถึงความสำคัญ ของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ว่าปัจจุบันและอนาคต โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมมุสลิม และประเทศชาติให้มีความก้าวหน้า เพราะสังคงต่อไปนี้นั้น จะให้ประชาชนมีความรู้ทางโลกเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านศาสนาด้วย เพราะศาสนาจะเป็นตัวยึดเหนี่ยวจิตใจ และผดุงคุณธรรมให้เกิดขึ้น

พร้อมกันนั้น ก็ฝากให้ผู้บริหารโรงเรียนทุกๆคน ปรับปรุงคุณภาพทางด้านการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเยาวชนมุสลิมทุกๆคนนั้นเอง
ผู้สื่อข่าวมุสลิมไทยรายงานว่า ในอดีตมีหลายโรงเรียนที่ได้รับวิทยฐานะ จากมหาวิทยาลัย อัล อัรอัซ ซึ่ง ณ.ปัจจุบันนี้ ทาง ม.อัล อัรฮัซ ได้ยกเลิกวิทยฐานะทั้งหมดแล้ว และเปิดโอกาสให้ ทุกโรงเรียนได้มีการปรับปรุง การเรียนการสอนให้ได้มาตรฐานการศึกษา ตามที่มหาวิทยาลัยฯกำหนด ซึ่งทาง ม.อัลอัรฮัซ ก็จะประกาศรายชื่อโรงเรียนต่างๆต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้โรงเรียนที่ได้รับการปรับวิทยฐานะ จะมีทุนการศึกษาและเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาของโรงเรียนนั้นๆอย่างมากมายในอนาคตด้วย –www.muslimthai.com









|