สำนักข่าวมุสลิมไทย อามีรุลฮัจย์เสียใจ 4 ผู้ประกอบการฮัจย์
ศ.ดร.อิมรอน มะลูลีม อามีรุลฮัจย์ ประจำปี 2553 เผยกับผู้สื่อข่าวมุสลิมไทย ในกรณีที่รัฐบาลสั่งจัดการขั้นเด็ดขาดกับ 4 บริษัทผู้ประกอบการฮัจย์ที่โกงเงินฮุจญาตว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก และเผยว่าเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับฮุจญาตมุสลิมไทยเลย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า สำหรับมุสลิมทุกคนนั้นการไปทำฮัจย์ ถือเป็นความฝัน และทุกๆคนก็จะขอพร (ดุอาร์) ให้มีโอกาสไปทำฮัจย์ สักครั้งหนึ่งในชีวิต ดังนั้นบางคนต้องเก็บเงินเป็นระยะเวลากว่า 10-20ปี จึงจะได้เงินหลักแสนบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการไปทำฮัจย์
ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ที่ไม่ได้ยื่นสัญญาเช่าที่พักของฮุจญาตจำนวน เกือบ 500 คน ทำให้กรมการศาสนาไม่สามารถยืนขอวีซ่าให้ได้ ทั้งนี้กำหนดการยืนเอกสารต้องดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 11 ต.ค. ต่อไปก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฏหมายในการเอาผิดทางโลกกับพวก 18 มงกุฎ ต่อไป
กล่าวเสริมว่างฮุจญาตนั้นก็ไม่ต่างจากแขกของพระผู้เป็นเจ้า (อัลเลาะห์) บริษัทที่ทำธุรกิจคดโกงกับธุรกิจฮัจย์ ไม่ช้าไม่นาน พวกเค้าเหล่านี้จะได้รับบาลอ(การลงโทษ)จากพระองค์อย่างแน่นอน ซึ่งพวกเราก็ได้เห็นตัวอย่างกันแล้วในอดีต
ทั้งนี้ก็หวังว่า กฎระเบียบและการสร้างความเข้าใจให้กับฮุจญาตให้มากขึ้น ก็น่าจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ประสงค์ที่จะเดินทางไปมักกะฮ์ในปีต่อไปได้เป็นอย่างดี-www.muslimthai.com
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1286540391&grpid=03&catid=
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ รองอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 8 ตุลาคม เป็นวันแรกที่ผู้แสวงบุญได้เริ่มทยอยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบีย ขณะนี้สถานทูตซาอุฯได้ออกวีซ่าให้แล้ว 12,098 คน ยังมีปัญหา 2 ส่วนที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อออกวีซ่าให้ทันการเดินทาง คือ
1.ผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ 4 บริษัท ยังไม่ส่งสัญญาเช่าที่พักประกอบขอวีซ่า ได้แก่
- บริษัท โฮสนี เอกซ์เพรส แอนด์ทัวร์ 127 คน,
- ฮานีฟ ทราเวิล แอนด์ทัวร์ 68 คน
- บริษัท นิลลี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 235 คน
- บริษัท บี.เค.บี.ทราเวิล แอนด์ทัวร์ 61 คน
รวม 491 คน
2.มี 2 บริษัทที่ยังไม่คืนเงินเข้ากองทุนสำหรับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ได้แก่
- อัสลาม ทราเวิล แอนด์ทัวร์ 46 คน
- บริษัท วันเฉลิม 47 คน รวม 93 คน
รวมผู้แสวงบุญที่ยังไม่มีวีซ่าและต้องเร่งช่วยเหลือ 584 คน
|