มุสลิมไทยดอทคอม แต่งงานสายฟ้าแลบ ระหว่างนักควิกเก็ตปากีสถานกับนักเทนนิสอินเดีย การประกาศแต่งงานอย่างกะทันหันระหว่างนักคริกเก็ตคนดัง และหัวหน้าทีมคริกเก็ตปากีสถาน ชูอิ๊บ มาลิก กับซาเนีย มิรซา ราชินีนักเทนนิสชาวอินเดียมุสลิม ก่อให้เกิดปฏิกิริยาหลากหลายจากวงการต่างๆ 
แรกสุดคือผู้นิยมกีฬาคริกเก็ตแสดงความยินดีกับเรื่องนี้ เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาในเรื่องกีฬาคริกเก็ตระหว่าง 2 ประเทศ ไม่อาจเรียกว่าอยู่ในระดับดี เนื่องจากมีการแข่งขันกันชิงความเป็นหนึ่งของวงการ
ต่อมากลุ่มชาวฮินดูหัวรุนแรงในอินเดียมีปฏิกิริยาในทางตรงกันข้าม โดย ซีฟ เสนา เป็นผู้นำก่อการประท้วง เผารูปโซเนีย และปฏิญาณจะทำลายการแต่งงานหากมีขึ้น โดยระบุว่าเป็นการหลู่เกียรติของชาวอินเดีย ที่ไปเลือกชาวปากีสถานเป็นคู่ครอง
ความบาดหมางระหว่าง 2 ประเทศที่สะสมอาวุธนิวเคลียร์นี้ปรากฏมาเป็นเวลาช้านาน โดยล่าสุดมีความขัดแย้งเกี่ยวกับแหล่งน้ำ และกีฬาคริกเก็ต
โดยปากีสถานโวยกรณีที่อินเดียสร้างเขื่อนกักต้นน้ำที่ไหลมายังปากีสถาน ส่วนกรณีกีฬาคริกเก็ตเป็นเรื่องที่ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกของอินเดีย พยายามจะซื้อตัวนักคริกเก็ตปากีสถาน
น่าสนใจที่ว่า ก่อนหน้าการประกาศแต่งงานข้ามพรมแดนนี้ ก็มีคู่รักจากวงการมายา และวงการกีฬาของทั้งสองประเทศ แต่งงานกันมาแล้วหลายคู่ ยกตัวอย่าง มุฮฺซิน คาน นักคริกเก็ตปากีสถาน แต่งงานกับดาราหนัง รีนา รอย หรือคู่รักดาราอย่าง จาว๊าด ชี้ค ของปากีสถาน แต่งกับดารา-นักร้องอินเดีย ซัลมา อักฮา ซึ่งถึงแม้จะแต่งงานกันในระยะเวลาสั้นๆ แล้วเลิกร้างกัน แต่ก็ทำให้ประชาชนที่เป็นแฟนหนัง แฟนละคร แฟนกีฬาทั้ง 2 ประเทศ ชื่นชมยินดีกันไปพักหนึ่ง
สำหรับซาเนีย มิรซา แสดงความชาตินิยมพอตัวที่ประกาศผ่านสื่อว่า เธอยังคงเชียร์ทีมคริกเก็ตอินเดียไม่ว่าจะแข่งกับทีมไหน แต่มีการประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าทั้งคู่จะไปใช้ชีวิตในดูไบหลังจากแต่งงานแล้ว 
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคความรักของทั้งคู่ยังไม่จบสิ้น คราวนี้มาจากเรื่องราวในอดีตของฝ่ายชาย ที่มีการยืนยันว่าเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งกับสาวอินเดียนาม อาอิชะฮฺ ซิดดิกกี ซึ่งฝ่ายชายบอกว่าเลิกรากันแล้วตั้งแต่ปี 2003 แต่ตอนหลังชูอิ๊บ และครอบครัว ออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์ระหว่างคนคู่นี้
การประกาศแต่งงานครั้งใหม่ และข่าวที่พาดพิง ทำให้ครอบครัวของอาอิชะฮฺ ซิดดิกกี ออกมาเคลื่อนไหว โดยมีการแถลงข่าวว่า มาลิก ชูอิ๊บ ต้องมาหย่ากับอาอิชะฮฺอย่างถูกต้องตามกฎหมายอิสลามเสียก่อน จึงจะแต่งงานใหม่ได้ ครอบครัวซิดดิกกีนำหลักฐานใบรับรองการแต่งงานระหว่าง ชูอิ๊บ-อาอิชะฮฺ มาแสดงในการแถลงข่าวด้วย และเตือนว่า หากไม่ทำให้เป็นที่ถูกต้องก็จะมีการฟ้องร้องถึงศาล
โดยก่อนหน้านี้ชูอิ๊บอ้างว่าครอบครัวของอาอิชะฮฺหลอกลวง โดยเอารูปของสาวอื่นมาแสดงเพื่อล่อให้เขาแต่งงานด้วย และยังว่าใบรับรองการแต่งงานเป็นของปลอม เขาอ้างว่ารู้จักกับเธอทางอินเตอร์เน็ต และมีการกล่าวนิกะฮฺทางโทรศัพท์
มุฮัมมัด อะลี ซิดดิกกี บิดาของอาอิชะฮฺ ยื่นคำขาดว่า หากชูอิ๊บยังปฏิเสธว่าไม่เคยแต่งงานกับอาอิชะฮฺอยู่อีก คราวนี้จะต้องโดนข้อหาเล่นชู้ ซึ่งจะมีโทษหนักหนาสาหัสตามกฎหมายอิสลาม
ผู้อาวุโสที่เป็นที่นับถือในเมืองไฮเดราบัด ได้เป็นผู้ประสานงานในเรื่องหย่านี้โดยมีการพูดจากันตลอดทั้งคืน ทำให้ครอบครัวของอาอิชะฮฺยกเลิกการฟ้องร้อง
เมื่อวันเสาร์ (03/04) ชูอิ๊บเดินทางไปไฮเดราบัด ซึ่งเป็นเมืองที่ทั้งภรรยาในอดีต และภรรยาในอนาคตของเขาอาศัยอยู่ เพื่อเตรียมการแต่งงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 เมษายนนี้
เมื่อวันจันทร์ (05/04) ตำรวจอินเดียเรียกชูอิ๊บมาสอบถามรายละเอียด หลังจากครอบครัวของอาอิชะฮฺแจ้งความว่า ลูกสาวยังคงเป็นภรรยาของชูอิ๊บอยู่ โดยตำรวจได้ยึดหนังสือเดินทางของเขาไว้ และห้ามออกนอกประเทศจนกว่าการสอบสวนทวนความจะเสร็จสิ้น
พอถึงวันพุธ (07/04) เรื่องราวก็คลี่คลาย โดยฝีมือการประสานของผู้อาวุโส ซึ่งออกมาประกาศว่าชูอิ๊บได้แสดงเจตจำนงในการหย่าอาอิชะฮฺแล้ว ซึ่งหมายความว่า เขาได้ยอมรับความถูกต้องของการแต่งงานระหว่างเขากับอาอิชะฮฺ
อิมรอน กอดิรฺ ผู้นำชุมชนอาวุโสกล่าวว่า เรื่องนี้จบลงอย่างมีเกียรติด้วยกันทุกฝ่าย แม่ของอาอิชะฮฺ ได้เห็นพ้องด้วยว่า ลูกสาวของเธอได้รับความยุติธรรมแล้ว และมีความสุขที่เรื่องนี้จบลงด้วยดี เพราะอาอิชะฮฺเองก็อยากหย่าให้จบสิ้นไป และไม่ได้เรียกร้องเงินค่าหย่าใดๆ แต่ชูอิ๊บจะต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้อาอิชะฮฺไปอีก 3 เดือน ตามข้อกำหนดในอิสลาม
อนึ่ง ซาเนีย มิรซา นักเทนนิสวัย 23 ปี เพิ่งถอนหมั้นกับคู่หมั้นที่มีนามสกุลเดียวกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่ายังไม่อยากมีพันธะผูกพัน เพราะอยากอยู่ในวงการเทนนิสต่อไปอีก เธอเคยอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก ส่วนมาลิก ชูอิ๊บ หัวหน้าทีมคริกเก็ต วัย 28 ปี กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาโทษห้ามเล่น 1 ปีจากคณะกรรมการกีฬาคริกเก็ตแห่งชาติของปากีสถาน ข้อหาที่ทำให้การเล่นของทีมตกต่ำ และมีพฤติกรรมที่น่าตำหนิเมื่อครั้งล่าสุดที่แข่งกับทีมออสเตรเลีย
เรื่องขัดแย้งนี้ดังเป็นระดับประเทศเมื่อ ชาฮฺ มะฮฺมูด กุเรชี่ รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ออกมากล่าวปกป้องชูอิ๊บ และว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดหากถูกตำรวจอินเดียดำเนินการใดๆ - www.muslimthai.com |